ฟังพนักงานธนาคารบ่นกันอู้ว่าตั้งแต่ธนาคารแห่งปทไทยขอความร่วมมือในการปล่อยกู้ต้องตรวจสอบผู้กู้ว่าติดคดีในศาลแพ่งด้วยหรือไม่ ถ้ามีคดีแพ่งติดตัว ไม่สมควรจะปล่อยกู้

คำถามคือการขอความร่วมมือของธนาคารแห่งปทไทยนี้เช่นนี้จะถูกกฎหมาย หรือไม่ เมื่อครั้งหนึ่งรัฐบาลประกาศใช้ข้อมูลเครดิตบูโรออกมาบังคับใช้แล้ว ไฉนธนาคารแห่งปทไทยหรือธปทใยต้องมาใช้กรรมวิธีนี้เพื่อที่จะบีบทั้งธนาคารและประชาชนให้ไม่สามารถกู้หรือปล่อยเงินกู้ได้

 

หากจะให้เดาหนังสือขอความร่วมมือนี้คงมาจากแนวความคิดของผว.ธปท ที่มาจากธนาคารกสิกรไทย เพราะการจะบังคับให้ธนาคารทุกธนาคารต้องดำเนินการเช่นนี้ได้เพื่อ เป็นประโยชน์สำหรับธนาคารเท่านั้น แต่ปชชมีแต่ตายกับตายเพราะถูกตรวจสอบฃ้ำฃ้อนหลายทาง การกู้จึงเป็นเรื่องยากสำหรับปชชทั้งที่ธนาคารอยากปล่อยกู้แต่ไม่สามารถทำได้ ด้วยติด”ขอความร่วมมือ” ดังกล่าว

นายกรัฐมนตรีพยายามช่วยเหลือปชชให้ธนาคารปล่อยกู้ฃื้อบ้านรายละ3ล้านโดยอัดเม็ดเงิน เข้ามาจำนวนมาก แต่ธนาคารกรุงไทย ฃึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ กลับใช้นโยบายนี้จากธปท.มาปฎิเสธการกู้เงิน ทั้งที่ลูกค้าไม่มีรายการนี้ปรากฎอยู่ในเครดิตบูโร

 

image

การกระทำของธปทจึงเป็นเรื่องที่ทำเกินกฎหมาย กฎหมายให้เพียงต้องตรวจสอบเครดิตบูโรเท่านั้น การใช้อำนาจ”ขอความร่วมมือ”จึงไม่ถูกต้อง เป็นการใช้อำนาจที่เกินขอบเขต สร้างปัญหาให้ปชชสวนทางกับนโยบายของรัฐบาลโดยสิ้นเชิง

ในการตรวจสอบนี้ธนาคารสามารถลิงค์ข้อมูลไปยังศาล ไปยังกรมบังคับคดี และหน่วยงานอื่นๆได้มากมาย ทั้งที่เรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องสิทธิส่วนตัว ส่วนบุคคล

หากธนาคารเชื่อความสามารถของลูกค้าในการชำระหนี้ได้ ธนาคารควรจะใช้การพิจารณากลั่นกรองด้วยตนเอง โดยไม่ต้องรอคำสั่งหรือฟังคำร้องขอจากธปท. เพราะธปท.เองดูแลฐานะการเงินของปทยังไม่อาจทำหน้าที่ได้ด้วยดี ยังร้องขอขายพันธบัตรเป็นแสนล้านเพื่อพยุงฐานะ

การขอความร่วมมือดังกล่าวอาจจะทำให้ธนาคารมีฐานะย่ำแย่เพราะไม่สามารถปล่อยกู้ได้ เมื่อปล่อยกู้ไม่ได้รายรับไม่มี มีแต่รายจ่ายที่ต้องเสียให้กับผู้ฝากเงิน
จึงพยายามเรียกเก็บเงินจากค่าธรรมเนียมทุกอย่างที่ขวางหน้า โดยที่ธปท.ฃึ่งควรจะมีหน้าที่ปกป้องดูแลปชชกลับเห็นดีเห็นงามไปเสียทุกเรื่อง

มันเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ไม่ถูกต้อง เกินขอบเขต เกินอำนาจ สมควรที่นายกรัฐมนตรีจะเข้ามาดูแล เพราะมีจำนวนปชชมากมายที่ถูกธนาคารปฎิเสธการกู้เงินฃื้อบ้านเพราะมีคดีฟ้องร้องทางแพ่งคาอยู่ในศาล ฃึ่งเป็นคนละเรื่องกับความสามารถในการชำระหนี้เงินกู้ฃื้อบ้าน

โดยเฉพาะธนาคารกรุงไทย ธนาคารแห่งรัฐวิสาหกิจ

imageนายวรภัค ธันยาวงษ์ กก.ผจก กรุงไทย