ถกปัญหานายทุนรุกที่ดอยแม่สลองหน่วยราชการเชียงรายสุ่มหัวอ้างสาเหตุที่ปล่อยปละละเลยเป็นเพราะความมั่นคง

เมื่อเช้าวานนี้หลังจากมีการเสนอข่าวนายทุนต่างชาติบุกรุกที่บนดอยแม่สลองเพื่อสร้างรีสอร์ทและไร่ชาโดยหน่วยราชการปล่อยปละละเลยกันมาตลอดยกเว้นรายเดียวที่เอาผิดดำเนินคดีคือรีสอร์ทชื่อคุ้มนายพลที่นายอำเภอแม่ฟ้าหลวงมีหมายเรียกเป็นผู้ต้องหาในคดีประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาตขณะที่รีสอร์ทอีก32แห่งใหญ่กว่ามีจำนวนห้องมากกว่าประกอบกิจการได้ตามปกติ

ทั้งที่ที่ดินบริเวณนั้นเดิมเป็นที่ป่าสงวนต่อมากลายเป็นที่สปก.ทำให้มีการบุกรุกเพิ่มมากขึ้นโดยไม่สนใจว่าผิดกฎหมายอย่างใดหรือไม่ทำให้การก่อสร้างผุดขึ้นมาเป็นรีสอร์ทขนาดใหญ่ที่ไม่น่าจะผ่านการตรวจสอบจากราชการได้นั้น

เช้าวานนี้ได้มีการเรียกประชุมของจังหวัดอันประกอบด้วยนางปรารถนาชัยยานะนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญพิเศษของสปก.เข้าร่วมประชุมถกความคิดเห็นโดยมีการพูดคุยสรุปให้ตอบตรงกันว่าสาเหตุที่มีการปล่อยให้มีการบุกรุกก่อสร้างโรงแรมไร่ชาจำนวนมากนั้นเป็นเพราะเกี่ยวข้องกับความมั่นคงด้านชายแดน

เหตุผลดังกล่าวทำให้เกิดเป็นข้อตลกขบขันของผู้ได้ยินทางออกของราชการจังหวัดเชียงรายที่จะตอบให้แก่สังคมได้ทราบเนื่องจากความมั่นคงด้านชายแดนนั้นตามกฎหมายจะไม่สามารถก่อสร้างสิ่งใดๆได้เลยต้องเว้นห่างออกจากชายแดนไปหลายกิโลเมตรห้ามมิให้คนมาอาศัยค้าขายฃึ่งเป็นเรื่องแปลกที่มักอ้างเรื่องค้าชายแดนเชื่อมสัมพันธ์หรือความมั่นคงมาปล่อยให้มีการทำผิดกฎหมาย

ความมั่นคงทางชายแดนคือในระยะห่างจากชายแดนเป็นจำนวน….กิโลเมตรต้องไม่มีใครอยู่อาศัยยกเว้นทหารมาประจำการเท่านั้น

การเตรียมการแก้ตัวของหน่วยราชการในจังหวัดเชียงรายจึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแก้ตัวได้ด้วยเหตุผลนี้

ปัญหาว่าทำไมหน่วยราชการจังหวัดเชียงรายจึงปล่อยปละละเลยให้มีการบุกรุกขยายวงกว้างรุกเข้าป่าต้นน้ำลำธารโดยเมื่อปี61 มีการบุกจับรีสอร์ทแห่งหนึ่งชื่อภูเมฆตะวันพบเจ้าของชื่อนายอู่หมิงแซ่กงอ้างว่าอยู่อาศัยมาสามสิบปีแต่จากการตรวจสอบของจนท.ป่าไม้ผ่านดาวเทียมในปี2545พบว่าที่ดินบริเวณนี้ยังมีสภาพป่าต้นน้ำลำธารและต่อมาปี2555-2557 กลายเป็นมีสิ่งก่อสร้างเกิดขึ้น

โดยจนท.ป่าไม้ให้นายอู่หมิงนำหลักฐานการครอบครองมายืนยันแต่เรื่องเงียบไปจนขณะนี้ภูเมฆตะวัน  จะเปิดทำการต่อหรือไม่ต้องสอบถามไปยังจังหวัดเชียงราย

อย่างไรก็ตามสำหรับรายชื่อรีสอร์ทใหญ่ๆที่เกิดขึ้นในบริเวณดอยแม่สลองพบว่ามีชื่อ  หอมหมื่นลี้  ,  101 ไร่ชาฃึ่งอ้างว่าเป็นที่สาธารณะขอเช่าจากกำนันฃึ่งเป็นคนต่างด้าวทำให้สงสัยว่าเป็นคนต่างด้าวแต่ทำไมจึงมาเป็นกำนันได้  ใครเลือกใครแต่งตั้งมาได้อย่างไร

ที่น่าสังเกตุคือรีสอร์ทที่ก่อสร้างแห่งหนึ่ง  อำเภอแม่ฟ้าหลวงออกใบอนุญาตให้ประกอบกิจการโฮมสเตย์5 ห้องแต่การก่อสร้างมีจำนวน30ห้องทำไมจึงออกใบอนุญาตได้ขณะที่คุ้มนายพลรีสอร์ทเป็นอาคารไม้เก่าแก่สร้างมานานยี่สิบปีกลับถูกตั้งข้อหาประกอบกิจการโดยไม่มีใบอนุญาตทั้งที่องค์การบริหารส่วนตำบลได้ออกใบอนุญาตให้คุ้มนายพลประกอบกิจการได้ตามคำสั่งของคสช.ที่ใช้ม.44 เรื่องมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว

กลับปรากฎว่านายอำเภอแม่ฟ้าหลวงปฎิเสธว่าคำสั่งคสช.ฉบับนั้นไม่ใช่คำสั่งอนุญาตให้ทำธุรกิจโรงแรมแต่เป็นการอนุญาตเรื่องการสร้างอาคารผิดประเภทต้องปรับปรุงให้ถูกต้องตามระเบียบภายในส.64 เป็นคนละเรื่องกันหากคุ้มนายพลต้องการเปิดธุรกิจนี้ต้องมาขออนุญาตจากตน

ฃึ่งเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวจะได้ติดตามสอบถามจากอธิบดีกรมการปกครองต่อไปว่าความเข้าใจที่ถูกต้องของคำสั่งคสช.นี้คือเช่นใดนายอำเภอแม่ฟ้าหลวงเข้าใจถูกต้องหรือไม่

อย่างไรก็ตามแน่นอนว่าการก่อสร้างโรงแรมขนาดใหญ่บนที่ดินป่าจำนวนมากมายหลายแห่งขณะนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไรโดยเจ้าหน้าที่รัฐไม่รู้ไม่เห็น