จะพัฒนาไปทำไมถ้าไม่ทำให้ความเป็นอยู่ประชาชนดีขึ้น
.
เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2562 ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ในเวทีฝ่ายค้านเพื่อประชาชน ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวตอนหนึ่งว่า โครงการอีอีซีเกิดมาจากรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นโครงการขนาดใหญ่ ที่เกิดขึ้นโดยขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน ดังเช่นบุคคลสำคัญที่มีส่วนร่วมก็ยอมรับเองว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับโครงการขนาดใหญ่ เช่น โครงการอีอีซีมากกว่าคุณภาพชีวิตของระชาชน ด้วยวิธีคิดว่า จะพัฒนาประเทศต้องเอื้อกลุ่มทุนใหญ่ก่อน เมื่อเติบโตแล้วจะดึงเอสเอ็มอี ดึงคนเล็กคนน้อยขึ้นมาได้ ซึ่งในรอบหลายปีที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าไม่จริง
.
โครงการต่างๆ เหล่านี้ ต้องใช้เม็ดเงินสูงนับแสนล้านบาท แล้วประชาชนในพื้นที่ได้ประโยชน์อะไร นอกจากไม่ได้แล้ว ทรัพยากรภายในพื้นที่ยังถูกทำลายไป วิถีชีวิตและการประกอบอาชีพ ก็ไม่สามารถทำได้เหมือนเดิม การทำประมงพื้นบ้าน ประมงพาณิชย์ขนาดเล็ก จะอยู่กันอย่างไร
.
ธนาธร ยังกล่าวยืนยันด้วยว่าชาวบ้านในพื้นที่เหล่านี้ ไม่ได้ปฏิเสธการพัฒนา แต่การพัฒนาของรัฐบาลไม่ได้ทำให้ ชีวิตของชาวบ้านดีขึ้น แล้วจะพัฒนาไปเพื่ออะไร เพราะคนคือเป้าหมายของการพัฒนา จุดเริ่มต้นของการพัฒนาจึงไม่ได้เริ่มจากกลุ่มทุนใหญ่ สิ่งเหล่านี้จึงไม่ใช่การพัฒนาที่เห็นหัวประชาชน
.
ทั้งนี้ เราไม่ได้ขัดขวางการพัฒนา แต่มีคำถามว่าเราจะพัฒนาประเทศไปทำไม ถ้าพัฒนาประเทศแล้วชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศไม่ดีขึ้น ซึ่งการพัฒนานำพาประเทศสามารถทำได้พร้อมกับต้องใส่ใจกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนด้วย ซึ่งมีเพียงระบอบการเมืองเดียวเท่านั้นที่จะทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้ นั่นคือระบอบการเมืองที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน ไม่มีระบอบอื่น
.
“เดือนนี้กันยายน คือเดือนที่ครบรอบ 13 ปี การทำรัฐประหาร ปี 2549 ซึ่งรัฐประหารครั้งนั้น สังคมไทยผ่านรัฐธรรมนูญมา 5 ฉบับ ได้แก่ฉบับปี 2540 ฉบับชั่วคราวปี 2549 ฉบับปี 2550 ฉบับชั่วคราวปี 2557 และฉบับปัจจุบัน 2560 ซึ่งการเดินทางตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ชัดเจนว่าอำนาจของพลเมืองลดน้อยถอยลง พวกเราจ่ายภาษี แต่ไม่มีอำนาจ ไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียง รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 กุมอำนาจ ดึงอำนาจไว้กับกลุ่มคนกลุ่มเดียว ซึ่งไม่ได้มาจาการเลือกตั้ง กลุ่มคนที่ไม่ได้มองอะไรเลยนอกจากว่าพวกเขาจะสืบทอดอำนาจได้นานที่สุด และเพราะฐานอำนาจของพวกเขาคือรถถัง คือปืน คือ ส.ว. คือองค์กรอิสระ
.
ดังนั้น พวกเขาจึงกล้าถวายสัตย์เช่นนั้น เพราะไม่มีประชาชนเป็นฐานอำนาจ พวกเขาจึงกล้าตั้งคนที่ถูกครหาว่าค้ายาเสพติดมาเป็นรัฐมนตรีเพราะไม่ต้องเกรงใจประชาชน พวกเขาจึงกล้าบอกกับประชาชนที่เดือดร้อนลำบากเพราะน้ำท่วมบ้านเรือนตัวเองให้ไปตกปลา ให้ไปทำประมง เพราะพวกเขาไม่เข้าใจประชาชน พวกเขาจึงออกแบบและดำเนินนโยบายอีอีซีเช่นนี้ เพราะพวกเขาไม่เห็นหัวประชาชน พวกเขาจึงเอางบกลางไปซื้อรถถังสไตรเกอร์ได้ แต่ไม่มีงบกลางช่วยน้ำท่วม เพราะพวกเขาไม่ได้มาจากประชาชน
.
ธนาธร กล่าวต่อว่า นี่คือการต่อสู้ครั้งสำคัญ การพัฒนายั่งยืน ตอบสนองชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน มีแต่ระบอบการเมืองที่เป็นประชาธิปไตย มีแต่การหยุดยั้งวงจรรัฐประหาร และจะทำได้ต้องเริ่มจากการแก้รัฐธรรมนูญปี 2560 โดยพวกเรา 7 พรรคการเมืองฝ่ายเดียวทำไม่ได้ เสียงในสภาต่อให้เยอะแค่ไหนก็ทำไม่ได้ ประวัติศาสตร์ 10 กว่าปีที่ผ่านมาบอกเราแล้วว่า ถ้าประชาชนไม่ตื่น ประชาชนไม่ลุกยืน ประชาชนไม่ทวงสิทธิ์เสรีภาพคืนมา ทำไม่ได้ เรามาทำร่วมกัน
.
อย่าเพิ่งยอมจำนวนกับปัจจุบันสมัย อย่าเพิ่งหมดหวังว่าสังคมที่เท่าเทียมเป็นธรรมเป็นไปไม่ได้ เราต้องต่อสู้กับอำนาจอยุติธรรม สร้างการเมืองเมืองแห่งความหวัง เรามาทำงานร่วมกัน ประชาชนทุกภาคส่วน ร่วมสร้างสังคมที่ดีงามเป็นธรรมกว่านี้ได้” ธนาธรกล่าว
.
(โพสต์โดยทีมงาน)