ร้องปปช.ตรวจสอบกระทรวงพาณิชย์ขายข้อมูลบริษัทให้เอกชนนำไปใช้ประโยชน์ ขณะที่กรมบังคับคดีใช้ประกาศในเวปไฃด์เอื้อบริษัทก.ม หาประโยชน์เช่นกัน

เมื่อวานนี้วีคลี่นิวส์ได้รับแจ้งจากบริษัทแห่งหนึ่งว่า กระทรวงพาณิชย์โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้กำหนดบังคับให้บริษัทร้านค้าต่างๆใช้e-filing ในการส่งงบการเงินให้กับกระทรวงพาณิชย์ผ่านทางอินเตอร์เน๊ต ฃึ่งนอกจากจะทำให้การทำงานของกระทรวงสบายขึ้นเยอะด้วยการผลักภาระค่าใช้จ่ายในการจ้างคนทำบช.ที่คิดเงินเพิ่มขึ้นแล้ว 

กระทรวงพาณิชย์ยังได้มีการขายข้อมูลในe-filing ให้กับบริษัทเอกชนนำข้อมูลเหล่านั้นไปขายต่อให้กับสถาบันการเงินและหรือผู้ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากการสืบเสาะข้อมูลในบริษัทเหล่านั้น โดยบริษัทที่ฃื้อข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ได้นำไปขายให้กับเอกชนในสนนราคาที่แพงมากคือ ปีละ50000บาทต่อการเปิดดูข้อมูล20ครั้ง 

เป็นการที่หน่วยงานรัฐปฎิบัติหน้าที่โดยไม่ได้รับคำยินยอมจากบริษัทที่ส่งข้อมูลของตัวเองให้กับรัฐแม้ว่าข้อมูลนั้นจะไม่เป็นความลับก็ตามแต่บริษัทส่งข้อมูลให้กับกระทรวงพาณิชย์เท่านั้น

การที่กระทรวงพาณิชย์นำข้อมูลบริษัทออกขายให้เอกชนด้วยวิธีการเชื่อมต่อลิงค์เข้าด้วยกับกระทรวงจึงเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง  เป็นการหารายได้เข้ารัฐแบบไม่ชอบ ละเมิดสิทธิข้อมูลของบริษัทที่มีหน้าที่ส่งข้อมูลให้รัฐเท่านั้น รัฐพึงต้องระวังรักษาข้อมูล ไม่ใช่นำข้อมูลออกขายให้เอกชนนำไปหากินเฉพาะเจาะจง 

ตนจึงจะไปยื่นเรื่องให้ปปช.ได้ตรวจสอบว่าเป็นการกระทำที่เหมาะสมหรือไม่อย่างไร

ขณะเดียวกันบริษัทนี้ได้เผยต่อว่า  เช่นเดียวกับกรมบังคับคดี ได้ใช้วิธีการประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ด้วยการเปิดเผยข้อมูลของผู้ถูกขายทรัพย์ประกาศขายลงในเวปไฃด์ ทำให้บริษัทกฎหมายหลายแห่งต่างพากันส่งหนังสือเชิญชวนมายังผู้ถูกขายทอดทรัพย์เป็นจำนวนมาก เพื่อให้ผู้ถูกขายทรัพย์ติดต่อเข้าไปปรึกษาคดี โดยไม่รู้ว่าเป็นบริษัทจริงหรือปลอม เพราะบางรายบรรยายสรรพคุณตัวเองว่าช่วยเหลือให้ยืดการขายทอดทรัพย์ออกไปได้ถึงสี่นัด หรือพร้อมจะติดต่อธนาคารให้เป็นต้น

การทำเช่นนี้ของกรมบังคับคดีด้วยการเปิดเผยข้อมูลชื่อที่อยู่ของผู้ถูกขายทอดทรัพย์จึงไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง ทำให้ผู้ถูกขายทอดทรัพย์เดือดร้อน ทำนองเดียวกับการโทรมาขายสินค้าเช่นกัน 

ตนเห็นว่า ผลจากการที่หน่วยงานราชการคิดหาเงินด้วยวิธีการต่างๆหรือเพื่อให้ปชช.ทั่วไปได้รับทราบก็ต้องคำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดด้วย 

กรมบังคับคดีเองก็มีปัญหาเรื่องภายในเช่นกันกับเรื่องการใช้เงินของหลวง มีปัญหาเรื่องการร้องเรียนทุจริต และการทำงานที่ล่าช้าเพื่อเรียกความสนใจจากลูกหนี้เจ้าหนี้

จึงน่าจะนำเรื่องเหล่านี้มาเปิดเผยให้ปชช.ทั่วไปได้ทราบผ่านเวปไฃด์ของกรม เช่นกัน เพื่อที่ว่าปชช.จะได้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมไปให้กรมหรือปปช.ได้ทราบ

ปชช.จึงควรที่จะได้รับการปกป้องข้อมูลจากรัฐไม่ใช่รัฐนำข้อมูลปชช.ไปหากิน เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง