พลังจิตนี่เป็นตัวแปรที่มีความสำคัญ

เราทำบุญทำการกุศล สวดมนต์ภาวนา สดับตรับฟังพระธรรมเทศนา บริจาคต่าง ๆ เขาเรียกว่าบุญ

บุญเหล่านี้จะไปรวมตัวกันอยู่ที่พลังจิต สนันสนุนให้พลังจิตให้เกิดปัญญา สามารถเอาตัวรอดได้ในอนาคต ก็ถือว่าสามารถที่จะได้พบหนทางมรรคผล นี่คืออานิสงส์
แล้วในพลังจิตนั้นจะรวมด้วยบุญ ด้วยวาสนา ด้วยบารมี เราทำเท่าไร เราทำน้อยก็ทำ ทำมากก็ทำ ทำทีไรก็ตาม มันจะไปรวมกันอยู่ที่พลังจิตของเรา

พลังจิตนี้จะเก็บพวกนี้ไว้ เมื่อเวลาที่สร้างบุญกุศลแล้วนี่ มันกลายไปเป็นอมตะธรรม เรียกว่า ธรรมที่ไม่ตาย

ธรรมที่ไม่ตายคือธรรมที่พอกพูน บริจาคหนึ่งก็ได้ บริจาคสองครั้งก็เป็นสอง หรือบริจาคร้อยก็เป็นร้อย บริจาคมากเท่าไรก็เพิ่มขึ้นเรื่อย
เพราะว่าเมื่อไปเป็นอมตะแล้ว มันจะไม่สูญสลายตัว มันจะสะสมไว้ให้เรา

เหมือนกันกับเรารับประทานอาหาร
เรารับประทานอาหารนี่ อาหารมันจะกักตุนแร่ธาตุต่าง ๆ ให้มนุษย์เรามีชีวิต มีร่างกายเดินได้พูดได้ มีสติมีปัญญา มีหลาย ๆ อย่างรวมกัน

เหมือนกันกับเราสร้างบุญสร้างกุศล สติปัญญาก็รวมอยู่ที่นี่ บุญวาสนาบารมีก็รวมอยู่ที่นี่ เขาเรียกว่าเป็นอมตะ อมตะธรรม

เพราะฉะนั้น การที่พวกเราทั้งหลายได้มีศรัทธาบำเพ็ญกุศลนานัปการ อานิสงส์เหล่านั้นมันก็จะต้องออกผล

จากหนังสือ ธรรมะรุ่งอรุณ ๙/ธรรมะฟ้าสาง หน้าที่ ๒๙
พระธรรมมงคลญาณ (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน
๖๑.๐๕.๒๖