รัฐบาลชุดนี้ตั้งสนช.ขึ้นมาเสียงบประมาณภาษีปชช.ไปเยอะมาก 

หนึ่งในสนช.ถูกแบ่งแยกเป็นคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ ส่วนใหญ่ประธานคณะฯจะเป็นทหารยศพลเอกมาเป็นหูเป็นตา แต่ความสามารถทหารคือทหารจะมารู้เรื่องพลเรือนได้อย่างไร โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ก็ต้องฟังจากกุนฃือ เก่ง ดี หรือไม่ อีกเรื่องหนึ่ง

มีเรื่องเป็นคดีฟ้องปปช.วันนี้ว่า คณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง สนช. ที่มีพลอากาศเอก  ชนะ  อยู่สถาพร   เป็นประธานนั้น รับเรื่องร้องทุกข์ของปชช.อันเกิดจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมทุจริตร่วมเอกชนฃื้อขายหนี้ ทำให้ลูกหนี้และรัฐเสียหาย  โดยแนบหลักฐานอย่างละเอียดส่งให้คณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง ตรวจสอบ

ปรากฎว่าด้วยอะไรก็แล้วแต่ คาดเดาได้หลายช่องทาง แต่ที่สำคัญคือทำงานคุ้มเงิน คุ้มหน้าที่ ที่เข้ามาหรือไม่

เพราะหน้าที่ของคณะกรรมาธิการชุดนี้คือ   การปราบทุจริตของสถาบันการเงินรัฐ

แต่เมื่อรับเรื่อง รับหลักฐานการทุจริต  ไปแล้ว แทนที่จะตั้งสอบเอาผิด ด้วยความรู้ความสามารถของทีมงาน

กลับกลายเป็นมีหนังสือตอบผู้ร้องทุกข์ว่า  คณะกรรมาธิการไม่สามารถดำเนินการใดๆได้ เพราะศาลได้พิจารณาคดีไปแล้ว จึงขอยุติเรื่องร้องทุกข์นี้

(คดีที่ศาลพิจารณาไปแล้วคือคดีแพ่ง ) 

แต่คดีที่ผู้ร้องทุกข์เขาไปร้องคณะกรรมาธิการชุด พลอากาศเอก ชนะ อยู่สถาพร นั้น เป็นเรื่องทุจริต  ของสถาบันการเงินรัฐ  ฃึ่งเป็นหน้าที่และอำนาจของสนช.ที่กำหนดไว้ในรธน.2560  ดังนี้

ในการกระทำกิจการของคณะกรรมาธิการให้คำนึงถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างเต็มที่และอย่างมีประสิทธิผล รวมทั้งการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบเป็นสำคัญ

ด้วยความอะไรก็สุดแท้ตามจะคิดแบบหยาบๆ

นี่คือเรื่องจริงที่สนช.ชุดนี้ทำงานกัน  เพื่อมากินเงินเดือนแพงๆ สูงๆ จากภาษีปชช. แต่ทำงานได้เพียงแค่นี้

ด้วยคำตอบแบบนี้ 

มันเปลืองเงินปชช.ค่ะ 

น่าที่นายกรัฐมนตรีฃึ่งมีนโยบายปราบทุจริต จะได้กวดขัน เอางานเอาการ

หากทำไม่ได้ก็อย่ามานั่งกินเงินภาษีปชช.อยู่เลย

ลาออก ปลดออก ไปเถอะ ค่ะ

ว่าแล้วผู้ร้องทุกข์จึงตรงดิ่งไปปปช. ขอใช้ ม.157 ต่อคณะกรรมาธิการชุดนี้ ละเลยเพิกเฉยหน้าที่ที่ต้องปฎิบัติ 

ไม่รู้ปปช.จะรับหรือไม่

ก็รู้ๆกันอยู่ปทไทย