สติกับปัญญานี่มันมีความสำคัญต่อพวกเรา
สติแปลว่าความระลึกได้ ปัญญาแปลว่าความไตร่ตรอง

เมื่อระลึกขึ้นมาได้แล้วก็มาไตร่ตรอง นี่เป็นเรื่องสำคัญ

ถ้าหากว่าเป็นเช่นนั้นได้แล้วทีนี้โลกนี้มันก็ไม่ขัดข้อง โลกนี้มันก็ไม่วุ่นวาย มันก็สงบ ความสงบก็เกิดขึ้น

เพราะฉะนั้นสิ่งต่าง ๆ ที่เราพากันได้รับความทุกข์ ความเดือดร้อนเพราะกิเลสมันมาคอยรังควาญเราอยู่ตลอด
ไอ้กิเลสนี่มันไม่ใช่มันจะรังควาญวันนี้วันเดียว มันจะรังควาญตั้งแต่ก่อนมาแล้ว แล้วมันจะรังควาญต่อไปจนกระทั่งกว่าเราจะตาย มันจะตามรังควาญอยู่ตลอด

เพราะฉะนั้นถ้าเรามีสมาธิ สมาธินี่ทำไปครั้งหนึ่ง สองครั้ง หรือทำไปหลายครั้งนี่มันจะไปสะสมตัว คือไปสะสมตัวมันเอง
การสะสมตัวมันเองนี่มันก็จะเป็นพลังจิต
เมื่อเป็นพลังจิตแล้วมันก็แก้ไขสิ่งเหล่านี้

มารมันจะมากี่ตัว มารมันจะมาทิศใดบ้างเราก็สู้มันได้ทุกวิถีทาง นั่นคือสร้างความสงบให้แก่ตัวของเรา
เมื่อสร้างความสงบให้แก่ตัวของเราได้แล้วมันก็สงบต่อสังคม มันก็สงบต่อโลก
ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็สงบ มันอยู่ที่ว่าเราจะปรับปรุงอารมณ์ของเราได้อย่างไร

เหมือนกันกับเราปรุงอาหารอย่างนี้เราก็ต้องมีสติปัญญาแล้วก็ทำกับข้าวให้มันอร่อยขึ้นมา สิ่งนั้น สิ่งนี้ เพราะอะไร
เพราะสติและปัญญาที่เกิดขึ้น

จากหนังสือ ธรรมะรุ่งอรุณ ๒ หน้าที่ ๒๗๑
พระธรรมมงคลญาณ (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน

๖๑.๐