ผู้ที่ฉลาดต้องรู้จักว่าควรจะทำอย่างไร
และไอ้ที่ฉลาดได้นั้นต้องมีจิตใจมั่นคง

ความมั่นคงของจิตใจนั้นก็คือการที่พวกเราทำสมาธิ
เพราะว่าสมาธินี่จะทำจิตใจของเราให้มั่นคงได้

เนื่องจากอะไร
เนื่องจากว่าการทำสมาธินี่สามารถผลิตพลังจิตได้
เมื่อผลิตพลังจิตออกมาแล้วพลังจิตนี้ก็จะแทรกซึมเข้าไปที่จิต
เมื่อแทรกซึมเข้าไปที่จิตแล้วก็ฝังอยู่ที่จิต
เมื่อฝังอยู่ที่จิตแล้วมันก็เพิ่ม เวลาที่เราทำใหม่อีกก็เพิ่มขึ้น
เพราะว่าพลังจิตมันไม่สลายตัวไปไหน มันจะอยู่ในตัวของเรา หลายครั้งเข้า หลายครั้งเข้าก็เกิดความแข็งแกร่ง

แต่ทีนี้ถ้าหากว่าไม่ทำเลยเราก็ไม่สามารถที่จะได้พลังจิต
เมื่อไม่สามารถที่จะได้พลังจิตก็ขาดความแข็งแกร่ง ทำอะไรก็หวั่นไหว

พระพุทธเจ้าจึงบอกว่าให้พ้นไปเสียจากโลกธรรม

ไอ้โลกธรรมนี่มันทำให้มนุษย์ของเรามีความหวั่นไหว
ในมงคลสูตรท่านก็แสดงว่า “ผุฏฐัสสะ โลกะธัมเมหิ จิตตัง ยัสสะ นะ กัมปะติ” โลกธรรมถูกต้องแล้วอย่าไปหวั่นไหว

พระพุทธเจ้าเราก็เป็นตัวอย่าง มีพระพุทธเจ้าอุบัติบังเกิดขึ้นก็มีเทวทัตมากลั่นแกล้ง
มีนางจิญจมานวิกามากลั่นแกล้ง
อะไรต่าง ๆ สารพัดที่พระองค์จะได้รับตลอดระยะเวลา แต่ว่าความมั่นคงในจิตใจนี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

เพราะฉะนั้นการทำสมาธินี่จึงเป็นหนทางที่ถูกต้องที่สุด
เราทำสมาธิเข้าไว้ แล้วนอกจากที่ว่าเราทำจิตใจของเรามั่นคงได้ด้วยการทำสมาธิแล้ว ยังเป็นบุญ เป็นกุศล เป็นวาสนา เป็นบารมี ที่สามารถที่จะทำให้เรานี่ได้เดินทางไปในทางที่ถูกที่ควร

จากหนังสือ ธรรมะรุ่งอรุณ ๒ หน้าที่ ๑๕๒
พระธรรมมงคลญาณ (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน

๖๐.๐๑.๐๙