เราสามารถที่จะสร้างตัวของเราให้เกิดความสำคัญขึ้นมาได้
เพราะอะไร

เพราะว่าสมาธิเป็นของที่ไม่ใช่ยากจนเกินไป แล้วก็ไม่ใช่ง่าย ไม่ง่ายแล้วก็ไม่ยาก แต่ว่าพอดีที่เราสามารถจะกระทำกันได้

ไม่ว่าบุคคลผู้นั้นจะเป็นหญิงเป็นชาย
ไม่ว่าบุคคลผู้นั้นจะเป็นฆราวาสเป็นพระ
ไม่ว่าบุคคลผู้นั้นจะเป็นเด็กผู้ใหญ่
ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นเจ็กจีนแขกฝรั่ง
สามารถที่จะทำสมาธิได้ด้วยกันทุกคนแล้วก็สามารถสร้างความวิเศษให้แก่ตนของตนขึ้นมาได้

ความวิเศษภายนอกก็ปรากฏว่าเป็นที่น่าเคารพ เป็นที่น่าบูชา เป็นที่น่านับถือ
แต่ว่าถ้าตัวของเราทำขึ้นมานั้นมันก็เป็นที่น่าจะเคารพในตัวของเรา เราก็จะเกิดความภาคภูมิใจในตัวของเรา
ตัวของเราก็คิดว่าเราได้ทำสมาธิแล้ว เราได้พลังจิตแล้ว เราได้ความดีแล้ว
แล้วความดีนี้ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ แล้วก็จะเป็นนิสัย แล้วก็จะเป็นปัจจัย เขาเรียกว่าเป็นทั้งวาสนา เป็นทั้งบารมีที่จะทำให้เกิดขึ้นแก่ตัวของเรา

เพราะฉะนั้นทางที่ดีที่สุดที่เราควรจะต้องไม่ละเว้นก็คือการทำสมาธิ

เราทำสมาธิได้แล้วเราก็ไม่ควรที่จะทำเฉพาะตัวเท่านั้น ควรที่จะจำแนกแจกจ่ายคือแนะนำสั่งสอนบุคคลผู้อื่นต่อไป

เมื่อเป็นเช่นนั้นตัวของเรานี่จะกลายเป็นบุคคลที่มีความสมบูรณ์
เพราะคนเรานั้นเอาแต่เฉพาะตัวรอดมันก็ไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่ ก็เมื่อเอาตัวรอดแล้วก็พาคนอื่นให้รอดไปด้วย ก็เรียกว่าสมบูรณ์ขึ้นมาในความเป็นมนุษย์

ด้วยเหตุดังกล่าวพระพุทธเจ้าจึงทรงตรัสว่า “สีละปริภาวิโต สมาธิ มหัปผโล โหติ มหานิสังโส”
ศีลเป็นเครื่องที่จะสนับสนุนให้สมาธิมีความเจริญ
สมาธิมีการสนับสนุนให้ปัญญามีความเจริญ

มันเกิดขึ้นจากตัวของเราที่เราจะสร้างมันขึ้นมาได้

จากหนังสือ ธรรมะรุ่งอรุณ ๓ หน้าที่ ๑๑๔
พระธรรมมงคลญาณ (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน
สุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา

๖๐.๑๐.๒๖