ความมั่นคงกับความรู้สึกของปชชชาวพุทธ รัฐบาลกลับเลือก……
ความมั่นคงกับความรู้สึกของปชชชาวพุทธ รัฐบาลกลับเลือก……
พลันที่อดีตพระหนุ่มออกมาระบายความรู้สึกกดดันรัฐที่เอาใจศาสนาอิสลามจนออกนอกหน้า จนถึงกับต้องสู้สึก(ศึก)ออกมา เพราะรัฐกล่าวหาว่าการกล่าวเช่นนั้นกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
จะไม่ใช่การหยุดนิ่งเพียงเท่านี้ แต่กลับเป็นการกดดันเพิ่มกระแสให้คนชาวพุทธแตกแยกกับอิสลามมากยิ่งขึ้น
รอวันที่จะระเบิดเป็นสงครามศาสนาต่อไป
การที่รัฐคิดว่าการออกมาแสดงความเห็นของคนชาวพุทธต่อการปฎิบัติของปัญหาภาคใต้ที่ขบวนการอิสลาม(มุสลิม)บางคนออกมาเคลื่ยนไหวทำร้ายคนไทยนับถือศาสนาพุทธมีต่อเนื่องไม่จบสิ้น แต่รัฐไม่ได้พยายามที่จะหยุดยั้งให้ราบคาบ กลับใช้วิธีประนีประนอมยอมศิโรราบ ทั้งในเชิงกลยุทธและการเจรจา
เปิดโอกาสให้ใช้อำนาจนอกศาสนามาสร้างฐานความแข็งแกร่งแห่งศาสนาอิสลาม ขึ้นในประเทศ
เพียงเพราะต้องการให้ปทชาติมีความสันติในทางศาสนา
แต่สำหรับคนชาวพุทธที่เป็นส่วนใหญ่ของปทกลับมองคนละมุมว่า ศาสนาพุทธถูกย่ำยีเพราะอำนาจรัฐ ที่ถือหางศาสนาอื่นให้มารุกรานคนส่วนใหญ่ของปท
โดยเปรียบเทียบงบประมาณของรัฐที่มอบให้กับผู้นับถือศาสนาอิสลามในรูปแบบต่างๆ ที่คนชาวพุทธไม่แม้แต่จะได้รับอาทิ งบเดินทางไปทำพิธีทางศาสนายังปทฃาอุฯ
ขณะที่ชาวพุทธหวังงบประมานเดินทางไปทำพิธีทางศาสนายังปทอินเดียเฉกเช่นกัน แต่งบนั้นถูกตัดสิทธิไปเรียบร้อยแล้ว
กระแสความกดดันที่รัฐกระทำต่อศาสนาพุทธที่ผ่านๆมาจึงเป็นอันตรายในความมั่นคงต่อคนชาวพุทธที่รัฐบาลชุดนี้ลืมตระหนักถึง”ความควรไม่ควร”
ปทไทยคงเป็นปทเดียวในโลกที่ให้โอกาสคนนับถือศาสนาอิสลามกระทำการได้อย่างอิสระ ไร้ขอบเขต การบังคับ
วันนี้เราจึงเห็นคนที่นับถือศาสนาอิสลามแสดงตนด้วยการสวมใส่ฮิญาบกันอย่างแพร่หลายในทุกๆที่กันอย่างหนาตาแล้ว
ยังมีการแสดงออกในเรื่องของการเปิดร้านค้าสำหรับชาวอิสลาม ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ร้านขายสินค้า แบ่งแยก กันอย่างชัดเจน
แตกต่างจากเมื่อครั้งกาลก่อน ที่คนส่วนน้อยนี้อยู่ร่วมกลืนกับคนส่วนใหญ่
การโจมตีทางภาคใต้จึงมิอาจมองเป็นอย่างอื่นได้ว่า เพื่อทำให้คนอิสลามในปทไทยได้รับการเอาอกเอาใจมากขึ้นจากรัฐ เพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหาตามขึ้นมาอีก
เหตุผลของรัฐบาลกับปชชคนไทยพุทธจึงสวนทางกัน ขณะที่ปทอื่นที่เกลียดชาวอิสลามเพราะความรุนแรงสวนทางกับคำสอนของศาสดาที่ให้ละมาดถึงวันละ5เวลาก็ตาม
ทำให้ต่างปทอย่างออสเตียเลีย ฝรั่งเศษ จึงมีกฎเหล็กออกมาบังคับใช้คนที่นับถือศาสนาอิสลามในปทของเขาให้ต้องทำตามกฎเกณฑ์ที่ปทกำหนด
แต่สำหรับปทไทย มีแต่ให้ความเสรีอิสระในทุกด้านในทุกเรื่องให้กับผู้นับถือศาสนาอิสลามจนก้าวล่วงคนส่วนใหญ่ของปทแล้วก็ตาม น่าที่คนชาวอิสลามจะได้ช่วยกันสนับสนุนแก้ปัญหาภาคใต้ให้สงบและเพียงพอต่อการดำเนินการอยู่อาศัยภายใต้”ได้คืบอย่าเอาศอก ”
และรัฐบาลก็อย่าได้เอาใจจนลืมนึกถึงชาวพุทธฃึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของปท มิฉะนั้นปัญหาน้ำผึ้งหยดเดียวก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาศาสนาติดตามมาได้
ถึงวันนั้นไทยกับไทยอาจฆ่ากันตาย เพราะผู้นำของปทไม่รู้จักยืนหยัดในสิ่งที่ถูกที่ควร นั่นเอง
พัชรินทร์ พันธวงศ์
ใส่ความเห็น