พระพุทธเจ้าแสดงธรรมะให้แก่ประชาชน ไม่ได้แสดงธรรมที่เกินกว่าประชาชนจะทำได้

พระพุทธเจ้าแสดงธรรมพอเหมาะพอดีกับพวกเราทุก ๆ คนที่สามารถทำได้
เพราะว่าถ้าแสดงธรรมในสิ่งที่ทำไม่ได้มันก็ไม่มีประโยชน์

แต่ถ้าแสดงธรรมที่พวกเราทำได้ประโยชน์ก็เกิดขึ้น
ถ้าหากว่าทำไม่ได้ธรรมะนั้นทั้งสูงทั้งใหญ่ก็ไม่สามารถจะเป็นประโยชน์อะไรกับเรา
ถ้าหากว่าธรรมะพอเหมาะที่เราทำได้แม้จะน้อยนิดก็ยังเป็นประโยชน์

เวลาที่เรารักษาศีลก็ดี เวลาที่เราทำทานก็ดี เวลาเราทำสมาธิก็ดี อย่าได้ไปคิดว่าเราทำแล้วทอดทิ้งไปเปล่า ๆ ทำแล้วก็แล้วกัน ทำแล้วก็หายไป
ไม่หาย สิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่เรียกว่าอมตะเป็นสิ่งที่ไม่ตาย จะติดตนตามตัวเราไปตลอด

เรื่องของบุญนี่มันไม่ตกหายไม่ตกหล่น ข้าวเม็ดเดียวไม่ตกหล่น มันจะอยู่ที่เราตลอดไป ขอให้ถือว่าเราได้ทำก็แล้วกัน

ด้วยเหตุนั้นพระพุทธเจ้าก็ได้แสดงธรรมให้แก่เราว่า “วิริเยนะ ทุกขะมัจเจติ” คนที่จะพ้นทุกข์ต่าง ๆ ได้ก็เพราะความเพียร

“ภาวิโต ภะหุลีกะโต” เจริญให้มาก กระทำให้มาก
“อภิญญายะ” จะเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง
“สัมโพธายะ” จะเป็นไปเพื่อความรู้ดี
“นิพพานายะ” จะเป็นไปเพื่อความดับสนิท

เมื่อเราพากันทำบุญแล้วบุญนี่มันก็ต้องส่ง ส่งเราจนกระทั่งถึงพระนิพพาน

เพราะฉะนั้นเมื่อท่านทั้งหลายมีชีวิตอยู่ก็จงอย่าพากันประมาท
“อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถาติ” จงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด

จากหนังสือ ธรรมะรุ่งอรุณ ๔ หน้าที่ ๒๑๙
พระธรรมมงคลญาณ (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน
สุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา

๖๐.๐๘.๒๔