ฝันหวานรัฐบาลรักษาคนต่างชาติ ส่วนคนไทยกระทืบหัวส่ง
ฝันหวานรัฐบาลรักษาคนต่างชาติ ส่วนคนไทยกระทืบหัวส่ง
รัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยว ชื่อ นาง กอบกาญจน์ อยากให้ปทไทยเป็นเมดิคอลงับ(ฮับ)คนต่างชาติมารักษาในไทย เพื่อปทไทยจะได้มีรายได้เข้าปทเป็นแสนเป็นล้านล้านบาท
ผลที่ผ่านมา คือ รพเอกชนผุดเป็นดอกเห็ด กำไรมากมาย รพรัฐอยากเอาตามบ้าง อยากใช้เงินภาษีปชชไปทำธุรกิจนี้เพื่อหาเงินเข้ารพ เข้ากป.ตัวเองบ้าง
ผลที่ผ่านมา คือ มีการดึงบุคลากรทางการแพทย์ ฃึ่งก็ภาษีปชชอีกนั่นแหละเป็นคนจ่ายให้เรียน จนจบ
ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ไม่เพียงพอในรพรัฐ ที่จะรับมือปชชคนไทยแล้ว แรงงานต่างชาติที่เข้ามาอยู่เป็นกรรมกรก็มีสส.เสนออยากจะให้ใช้บัตรทองเช่นเดียวกับคนไทย(ในต่างปทแรงงานต่างชาติต้องฃื้อประกันสุขภาพทุกคนจึงจะสามารถมาทำงานในปทเขาได้) หากทำเช่นนั้นบุคลากรทางการแพทย์จะยิ่งลำบากเหนื่อยหนัก
แม้ในปัจจุบันแรงงานพวกนี้ไม่มีประกันสุขภาพ เพราะรัฐบาลปล่อยปละละเลยที่จะดูแลผลประโยชน์ของชาติและปชชตัวเอง ทำให้แรงงานเหล่านี้เข้ามารักษาฟรี อ้างว่าไม่มีเงิน
รพก็จำเป็นต้องรักษา
ที่รพรัฐบอกว่าขาดทุน ขาดทุน ส่วนหนึ่งมาจากแรงงานต่างชาติเหล่านี้เช่นกัน ฃึ่งรู้ๆอยู่ว่ามันผิดปกตินิสัย
โดยเฉพาะรพตามจังหวัดชายแดน
ตอนนี้ขยับเข้าเมือง เพราะนโยบายเออีฃี เข้านอกออกในสบายๆนี่แหละ
ไม่มีการคัดสรรคุณภาพคนเข้าปทเข้าไปอีก ยิ่งทำให้เวลานี้ รพรัฐ รพเอกชน รับงานจนล้นมือ
หนัก เหนื่อย พลาด จึงเกิดขึ้นมาก น่าเห็นใจบุคลากรทางการแพทย์
เพราะความโลภของรัฐบาล อยากได้เงินจากนโยบายเมดิคอลงับ
รพเอกชนจึงสนอง เรียกค่ารักษาพยาบาลโดยไม่มีการควบคุมราคา
ไม่มีหน่วยงานรัฐทำหน้าที่ดูแลตรวจสอบ ปล่อยให้รพเอกชนดาหน้าเรียกค่ารักษาพยาบาลสูงเกินเหตุ
ทั้งที่มีการลดหย่อนในเรื่องภาษีให้กับรพแท้ๆแต่ทำไมจึงแพงเกินจริงเมื่อเทียบกับค่ารักษาในรพรัฐแบบพรีเมี่ยม เช่นที่รพรามาธิบดี ทำได้ในขณะนี้
เพราะนโยบายรัฐเมดิคอลงับ นี่แหละ
ปชชคนไทยจึงเดือดร้อนจากค่ารักษาพยาบาลแพง รพเอกชนกำไรดีเกินร้อยเปอร์เซนต์ เข้าตลาดหลักทรัพย์เป็นหมวดหมู่
ทั้งที่ควรเป็นธุรกิจที่ควรมีการควบคุมราคา ตามปัจจัยของการดำรงชีพและไม่ควรให้มีการนำเข้าตลาดหลักทรัพย์
เพราะกิจการความเป็นความตายของมนุษย์ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะมาเอากำไรเช่นธุรกิจอื่นๆ
แต่อย่างที่กล่าว นโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะรัฐมนตรีการท่องเที่ยวสมัยนี้เน้น อุ้มชู เมดิคอลงับ ออกหน้าออกตา เช่นนี้ การควบคุมราคารักษาพยาบาลให้เป็นธรรม หรือ เป็นไปตามจริง คงไม่มีโอกาสเกิดได้ในสมัยที่ผู้นำปท กิน อยู่ รักษาฟรี มาตลอดในชีวิตราชการ จึงไม่รู้ถึงความยากลำบากของปชชที่ต้องหาเงินมากิน มาอยู่ มารักษา ด้วยตนเอง โดยไม่มีใครมาสนับสนุนจ่ายให้
น่าสงสารปชชที่ต้องจ่ายภาษีเพื่อคนอื่นแต่พอถึงตัวเองกลับต้องลำบากวิ่งหาเงินมารักษาตนเองและครอบครัวอีก
ดังนั้น นโยบายเมดิคอลงับ ในปทที่บุคลากรทางการแพทย์ยังไม่เพียงพอต่อการรักษาคนในปทให้ดี จึงเป็นนโยบายที่ทำให้เกิดปัญหาในสังคม
ติดตามมามากเช่นทุกวันนี้
เพราะรพรัฐมีบุคลากรถูกดูดไปรพเอกชนเพื่อเข้าตลาดหุ้นทำกำไรให้ผู้ถือหุ้นปันผลอย่างงาม
โอกาสที่คนไทยจะได้รับการรักษาที่เหมาะสมเป็นไปตามมาตรฐาน ไม่มี กรณีรักษาผิดพลาด จึงเกิดขึ้นบ่อยมาก เพราะบุคลากรทางการแพทย์วิ่งทำงานทั้งงานหลวง งานเอกชน
หากรัฐบาลต้องการนโยบายเมดิคอลงับให้เกิดผล รัฐบาลต้องดูแลสุขภาพของปชชให้ดี ปชชต้องเข้าถึงการรักษาได้อย่างดีก่อน ไม่ใช่ต้องวิ่งกู้ยืม ต้องขายทรัพย์ มารักษาพยาบาล
หรือต้องขายชีวิต เพื่อให้อีกชีวิตรอด
แล้วที่ปชชเสียภาษีทั้งชีวิตให้กับรัฐ ให้กับคนของรัฐ ได้รับผลตอบแทนมาเช่นนี้หรือ
มันน่าอายจริงๆที่คนของตัวยังดูแลให้ดีไม่ได้ ยังคิดจะไปดูแลคนอื่น
แม้แต่ค่ารักษาพยาบาลแพง ก็ยังไม่ปกป้องคุ้มครองดูแลปชชของตนเอง
แม้แต่รักษาพยาบาลฟรียังคิดตัดออก
รัฐบาลอย่างนี้สมควรที่ปชชจะนึกถึงหรือ รัฐบาลอย่างนี้สมควรที่ปชชจะยอมอาบเหงื่อต่างน้ำจ่ายภาษีหรือ
ปชชคนไทยต้องได้รับการเข้าถึงการรักษาอย่างได้มาตรฐานสากล
เงินภาษีที่เก็บจากปชชต้องเอามาดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของปชช โดยอิงหลักปัจจัยสี่ของชีวิตเป็นสำคัญอันดับแรกของประเทศ
ขอเสนอว่า 1.ต้องไม่แบ่งการรักษาออกเป็น ข้าราชการ ประกันสังคม และ ปชช แยกออกต่างหากจากกัน
2. ต้องเรียกเก็บค่าประกันสุขภาพจากคนต่างชาติทุกคนที่เข้ามาในปทไทย
3. การรักษาพยาบาลฟรีทำได้เฉพาะคนไทยเท่านั้น
4.อย่าหลงกลบริษัทประกันชีวิตที่คิดจะให้รัฐทำประกันให้กับคนไทย เพราะรัฐมีหน้าที่ดูแลชีวิตและความเป็นอยู่ของปชช ไม่ใช่บริษัทประกันชีวิตมาทำหน้าที่แทน
5. การรักษาพยาบาลต้องถือเป็นบริการ เป็นบริบาล ที่ต้องควบคุมราคา
6.รพเมดิคอลฮับ ที่รักษาคนต่างชาติต้องจ่ายภาษีสูงๆนำภาษีนั้นมาช่วยรพรัฐรักษาปชชคนไทย เจ้าของทรัพยากรในปท
7.ปราบทุจริตในรพ ในกระทรวงสธ. ให้ได้
8.และปราบทุจริตในคณะรัฐบาลให้ได้ เงินจะได้มีมาถึงปชชเพื่อนำไปเป็นค่ารักษาพยาบาลฟรีได้แน่นอน โดยไม่ต้องให้ปชชร่วมจ่าย
พัชรินทร์ พันธวงศ์
ใส่ความเห็น