เรื่องเวลา เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ น่าพิจารณา แต่ละปีมี 365 วัน เท่ากันทุกคน แต่ละวันมีมืดกับสว่าง เหมือนกัน เป็นความจริงของโลก เป็นความจริงแก่ทุกคน แต่ เวลาที่ผ่านมาแล้วในชีวิต และเวลาที่เหลืออยู่ของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน
​มีคำถามที่น่าสนใจ ท่านรู้ไหมว่าเวลาที่เหลือในชีวิตนี้ของท่านเหลืออีกกี่วัน เหลืออีกกี่เดือน เหลืออีกกี่ปี ? ยากที่จะตอบได้ เราไม่รู้เลยว่าคนที่อยู่ใกล้ ๆ เราคนที่เรารัก คนที่เราห่วงใย หรือเพื่อนของเราจะจากเราไปเมื่อไหร่ ? ไม่แน่นอนเลย นี้เป็นความจริงที่เปิดเผย
​ที่แน่ ๆ เราทยอยกันมา ทยอยกันเกิดมา และก็ทยอยกันกลับ หรือจากกันไปในที่สุด ใครเล่าจะอยู่ค้ำฟ้าได้ อยู่ได้ถึงอายุ 80 ปีก็เก่งแล้ว เกินกว่านี้อายุถึง 100 ปีก็แก่ชราลงมากแล้ว ท่าจะลำบากแล้ว เราพบว่าในหลาย ๆ คนด่วนมาตายจากกัน ก่อนวัยอันควร น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง แม้จากกันในวัยอันควรก็จากกันด้วยความอาลัยยิ่ง
​ทรง ทรุด เสื่อม สิ้น เป็นสมบัติของสัตว์โลก เป็นสมบัติของเราทุกคน เสื่อมไป สิ้นไปทุกวัน ทุกเวลา ทุกลมหายใจเข้าออก
​เวลาที่ผ่านไปนั้นมีคุณค่ามากแค่ไหน ? มีคุณค่ามหาศาล ประเมินค่าไม่ได้เลย เรารับรู้ถึงคุณค่าของเวลามากแค่ไหน ? ในหลาย ๆ คนอาจมองไม่เห็นคุณค่าของเวลาในแต่ละวันที่ผ่านไป ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เพราะความไม่รู้ ไม่เข้าใจ ประมาท ขาดสติขาดปัญญา เสียดายที่วันสุดท้ายมาถึงโดยไม่รู้ตัว ถึงเวลานั้นก็สายเสียแล้ว ช้าไปแล้ว
​ควรที่เราจะมาพิจารณากัน หรือเสวนากันว่า เวลานี้สำคัญนัก เวลานี้มีคุณค่ายิ่งนัก เวลานี้มีน้อยนัก เวลานี้เหลือน้อยนัก อย่าประมาทเลย
​ควรที่จะใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด เราภูมิใจในชาติการเกิดของเราหรือยัง ? บัดนี้เราทำอะไรอยู่ ? เราเกิดมาทำไม ? เกิดมาเพื่ออะไร ? เกิดมาได้อย่างไร ? ทิศทางชีวิตเราจะไปทางไหน ? ทำอย่างไรเราจึงจะเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์
​ความดีเท่านั้นจึงจะเป็นที่พึ่ง บุญเท่านั้นจึงจะเป็นที่พึ่ง บารมีเท่านั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญของชีวิต ชีวิตของเราก็จะเป็นชีวิตที่มีความหมาย ชีวิตของเราจึงจะเป็นชีวิตที่สมบูรณ์ เป็นมนุษย์ที่ดีเลิศเกินกว่ามนุษย์ผู้อื่นได้
​อยู่ด้วยความไม่ประมาท สำรวมระวังรักษาตนอยู่เสมอ เตือนตนสอนตนอยู่เสมอ หมั่นสำรวจตรวจสอบตนอยู่เสมอ มีชีวิตอยู่เพื่อมรรคเพื่อผล มีชีวิตอยู่เพื่อบุญเพื่อกุศล มีชีวิตอยู่ด้วยบุญด้วยบารมี เลือกเส้นทางเดินของชีวิตที่เหมาะสมกับตน
​คนเราเกิดมา มีดีติดตัวมาอยู่แล้ว ขอได้หมั่นรักษาดี เพิ่มดี เติมดีให้แก่ตน วันคืนล่วงไปผ่านไป เมื่อเรามองย้อนกลับไป เราก็จะเกิดความภาคภูมิใจว่า ในรอบวัน รอบเดือน รอบปีผ่านไป เราได้ทำสิ่งดี ๆ ที่น่าภาคภูมิใจไปมากมาย ทั้งประโยชน์ตน และประโยชน์ต่อสังคม
​ครูบาอาจารย์ท่านได้เมตตาสอนไว้ว่า อยากอยู่ก็ไม่ถูก อยากตายก็ไม่ถูก อยู่ก็ดีได้มีโอกาสทำความดีเพิ่ม ได้ทำบุญเพิ่ม ตายก็ดีหมดภาระ พร้อมที่จะอยู่พร้อมที่จะจาก ตั้งใจที่จะทำความเพียรอย่างเป็นเลิศ ใช้วันและเวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ภูมิใจในชาติการเกิด ตายจากกันเมื่อไหร่ก็ไม่เสียดายชาติเกิด
​ขออวยพรให้ท่านทั้งหลายประสบความสุขและความสำเร็จ ประสบความสุขและความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป
​​​​​​​​รังสรรค์ อินทร์จันทร์
​​​​​​​ที่ปรึกษา งานพัฒนาบุคคลสู่ความเป็นเลิศ
​​​​​​​​ 28/12/2558