นายกรัฐมนตรีเปิดงานวันต้านโกง เหล้าเก่าในขวดใหม่ที่จับได้แต่คนนอกเครื่องแบบ พร้อมรู้ใจปชช.เกลียดข้าราชการ คาดโทษมีพรบ.อำนวยความสะดวก คอยดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ที่ไม่ปฏิบัติตาม


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. เป็นประธานเปิดงานวันต่อต้านคอร์รัปชั่นแห่งชาติ2559 โดยกล่าวว ปาฐกถาหัวข้อ “มาตรการจัดการการคอร์รัปชั่นของประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม” จัดโดยองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย)
ตอนหนึ่งว่า การแก้ปัญหาทุจริตเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งที่อยู่ในรัฐบาล ประเทศประสบปัญหานี้มานานและรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงพฤษภาคม 57 เป็นหน้าที่ที่เราต้องแก้ไข ไม่ได้เข้ามาเพื่อจับผิดใคร หรือแกล้งใครอย่างที่ถูกกล่าวหา กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย สำหรับโรดแมปในระยะที่ 3 ซึ่งเป็นการส่งมอบ การทุจริตก็ต้องน้อยลง หรือไม่มีเลย

ทั้งนี้ ไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาทุจริตอย่างเดียว รวมถึงกระบวนการ ภาคประชาชนต้องมีส่วนร่วมได้ แม้ตนเป็นรัฐบาลแบบนี้ต้องใช้วิธีการบริหารราชการแบบนี้ ฟังทุกพวก เพราะไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง เรื่องของการทุจริตทุกอย่างต้องปล่อยให้เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรม เราปล่อยปละละเลยมานาน ซึ่งการทุจริตไม่ใช่แค่เรื่องเงินทองเท่านั้น ยังรวมไปถึงการทำผิดกฎหมายอย่างอื่นด้วย

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ปัญหาการแก้ทุจริตต้องทำตั้งแต่วันนี้ ซึ่งอยู่ในแผนการปฏิรูป 20 ปีของรัฐบาล และอีก 20 ปีข้างหน้าประเทศไทยจะปราศจากทุจริต หากทุกฝ่ายร่วมกัน และประชาชนให้กำลังใจให้คนดีเข้ามาทำงาน ส่วนการใช้กฎหมายนั้นรัฐบาลไม่ได้มุ่งหวังกดประชาชน ไม่ได้ให้เชื่อฟัง แต่กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ไม่มีข้อยกเว้น ทุกคนควรต้องรู้เท่าทัน จะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้ 

“ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ คนเสนอ และคนรับ อย่างเท่าเทียมกัน หลายส่วนอาจจะต้องการความสะดวกและเข้าหาเจ้าหน้าที่ รัฐจึงต้องป้องกันตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง แต่ต้องให้เวลารัฐบาลในการแก้ไขเพราะปัญหาสะสมมานาน บางคดีเมื่อศาลตัดสินแล้วควรเคารพกระบวนการยุติธรรม อย่าทำตัวเหมือนบางคนที่ไม่ยอมรับการตัดสินและเห็นด้วยต่อเมื่อศาลตัดสินเข้าข้างตัวเอง”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าว และว่า ส่วนข้าราชการอย่าคิดว่าทำอะไรแล้วจะไม่มีใครรู้ เพราะประชาชนจับตามองอยู่ ที่ผ่านมารัฐบาลเน้นย้ำเรื่องธรรมาภิบาลในการทำงานให้โปร่งใส


พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเสริมต่อว่า ขณะนี้มี พ.ร.บ.อำนวยความสะดวก คอยดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ที่ไม่ปฏิบัติตาม ที่ผ่านมาประชาชนไม่ชอบราชการเพราะไม่เป็นมิตร จึงต้องปรับเปลี่ยน ทั้งนี้ การแก้ทุจริตต้องทำทั้งระบบและต่อเนื่อง มิเช่นนั้นประเทศจะเสื่อมถอย กลายเป็นรัฐล้มเหลว

ทางด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นฉบับปราบโกงแต่อยู่กับคนที่นำไปใช้ ถ้าคนนำไปใช้ไม่ทำงานก็ปราบไปไม่ได้ แต่มีกฎหมายฉบับหนึ่งที่ครม.รับหลักการและส่งให้กฤษฎีกาตรวจ กำลังจะเสร็จและจะเข้าสนช.กฎหมายนี้น่ากลัวกว่าทุกฉบับที่ผ่านมา ว่าด้วยการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตัวกับประโยชน์ส่วนรวมหรือเรียกว่ากฎหมาย 7 ชั่วโคตร วันนี้ลดลงมาเหลือ 3-4ชั่วโคตร หมายความว่าตัวทำ เมียทำ ลูกทำ พี่ทำ น้องทำ พ่อทำ แม่ทำ ไม่ได้

นายวิษณุ เครืองาม กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐ จะรับอะไรต้องระวัง จะรับของไม่ได้ จะมีปัญหา ตามกฎหมายแค่เอาโทรศัพท์ส่วนตัวมาชาร์ตไฟหลวงก็จะผิด เอาซองตราครุฑใส่เงินไปให้งานแต่งงานก็ผิด เวลาเขียนไม่ได้เขียนเล็กอย่างนี้ เขาเขียนหมดมันเลยย้ำตั้งแต่เอารถหลวงมาใช้ยันซองกระดาษหลวง มาตรการแบบนี้ประเทศอื่นเขาก็มีทั้งนั้น แต่เราไม่เคยมี พอกฎหมายออกมาจะมีคนค่อนขอดจะเอาจริงเอาจัง ก็ช่วยไม่ได้ กฎหมายเอาผิดแล้ว ถ้าคุณคิดว่าคงไม่มีการเอาจริงเอาจัง แล้วถ้าเกิดมีคนเอาจริงขึ้นมาก็ซวย อันนี้น่ากลัว

ทางด้านปชช.กล่าวว่า เป็นเรื่องดีของรัฐบาลชุดนี้ ที่ตั้งใจปราบโกง น่าเสียดายที่ตนยังไม่เห็นการปราบโกงกับคนในเครื่องแบบได้ มีคนตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมคนในเครื่องแบบมีเงินเดือนเท่าข้าราชการทั่วไปแต่ทำไมมีบ้านหลังใหญ่มีเงินฝากเป็นร้อยล้าน เช่น นายกรมต.คนหนึ่งที่โชว์บช.ต่อปปช ไม่รู้ทำธุรกิจทับซ้อนอะไรจึงมีเงินมากขนาดนั้น ก็ไม่เห็นมีใครกล้าไปตรวจสอบเอาผิด 

ฉะนั้นนายกรัฐมนตรีจะพูดอย่างไรก็ได้ ขอให้ลงมือทำให้เห็นดีกว่า