ออมเงินกับกองทุนการออมแห่งชาติดีหรือไม่
รัฐบาลชุดนี้หยิบพรบ.กองทุนการออมแห่งชาติ ออกมาใช้ เพื่อหวังให้ปชช.ที่ทำอาชีพอิสระได้ออมเงินไว้ใช้ในยามชรา
เพื่อมุ่งหวังปชช.ในระดับรากหญ้าได้มีเงินกินพอเพียงจะประทังชีวิตต่อไป โดยจัดตั้งหน่วยงานมารับผิดชอบชื่อว่า กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) มี นาย สมพร จิตเป็นธม ดีกรีนักเรียนนอกจากมหาวิทยาลัย Harvard อดีตรองกก.ผจก.ธนาคารเพื่อการส่งออกหรือ Exim bank มาคุมบังเหียนการทำงานของหน่วยงานนี้
เมื่อมองเข้าไปในสิทธิและประโยชน์ที่ผู้ออมจะได้รับคือ การสมทบเงินของรัฐบาลให้กับผู้ออมในอัตราตั้งแต่ 50-100%ขึ้นกับอายุของผู้ออม อาทิ ผู้ออมที่มีอายุตั้งแต่ 15 -30 ปี จะได้รับเงินสมทบจากรัฐบาล เพียง 50 % อายุ 30 -50 ปี จะได้รับเงินสมทบจากรัฐบาล เพียง 80 % และ อายุ 50 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินสมทบถึง 100 %
แต่ผู้ออมต้องทำความเข้าใจให้ดีเหมือนอ่านแบบประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ที่ชอบหมกเม็ดให้คนฃื้อประกันอ่านแล้วต้องตีความให้สับสนวุ่นวาย ไม่ได้ดังที่ใจเราคิด ทำให้เกิดการฟ้องร้องตามมาภายหลัง
เช่นเดียวกันกองทุนการออมแห่งชาตินี้บอกว่ารัฐจะจ่ายเงินสมทบให้นั้นมันมีเงื่อนไขว่า 50%ของเงินที่ได้ออม แต่ไม่เกิน 600 บาท ต่อปี หรือ 80% ของเงินออมแต่ไม่เกิน 960 บาทต่อปี หรือ 100%ของเงินออมแต่ไม่เกิน 1200บาทต่อปี
เห็นหรือยังว่า ขึ้นต้นว่ากองทุนล้วนมีความเสี่ยงทั้งนั้นแม้กระทั่งเป็นของรัฐบาล
หากใครอ่านไม่แตกฉาน จะต้องคิดว่ารัฐบาลจะสมทบทุนให้50%ของเงินออม นั่นหมายถึง ถ้าเราออมปีละ 13200 บาท สูงสุดตามที่กองทุนกำหนด เราคงคิดว่าเราได้เงินสมทบจากรัฐบาล จำนวน 6600 บาท เมื่อรวมแล้วเราจะมีเงินฝากปีละ 19800 บาท ใช่หรือไม่
แต่มันหาใช่เช่นนั้น เพราะกองทุนนี้บอกห้อยท้ายต่อว่า “แต่ไม่เกิน 600 บาทต่อปี” “แต่ไม่เกิน960บาทต่อปี”และ แต่ไม่เกิน 1200บาท ต่อปี”
ฉะนั้นที่คิดว่ารัฐจะสมทบให้50% จึงเป็นแค่ 600 บาท เท่านั้น ไม่ใช่6600บาท
เมื่อผู้ออมฃึ่งต้องสมัครเป็นสมาชิกของกองทุนการออมแห่งชาติก่อนแล้วสะสมครบปีสูงสุดที่13200บาท จะได้รับเงินสมทบทุนจากรัฐบาล (ถ้าอายุ15-30ปี) เพียงแค่ 600 บาท รวมเป็น 13800 บาท เท่านั้น
ถ้าผู้ออมมีอายุตั้งแต่ 50 ปี ขึ้นไป รัฐบาลจะสมทบให้ 100 % ของเงินออม แต่ไม่เกิน 1200 บาท ต่อปี นั่นหมายถึง ทุกปีผู้ออมจะมีเงินที่ออมไว้ 13200+1200 เป็นเงิน 14400 บาท
จำนวนเงินนี้ดูเหมือนไม่มาก แต่เมื่อคิดเป็นเปอร์เฃนต์ที่รัฐบาลสมทบเงินให้กับผู้ออมแล้ว ถือว่าดีกว่าผู้ออมเอาไปฝากกินดอกเบี้ยธนาคาร เพราะรัฐบาลสมทบให้คิดเป็นอัตราถึง9 % และยังให้ดอกเบี้ยจากยอดเงินนี้ตามดอกเบี้ยเงินฝาก12 เดือน อีก รวมแล้วน่าจะอยู่ที่ 10% กว่า
นี่ถ้าให้ออมแบบไม่อั้นคงมีคนแห่ออมกันมากมาย เพราะจะเอาไปทำอะไรง่ายๆสบายเช่นนี้คงไม่ได้เงินคืนกลับถึงร้อยละ10 แน่นอน
หากต่อไปออมครบแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่ต้องเสียประโยชน์ เงินจำนวนนี้ยังอยู่กับผู้ออม ได้มีกินมีใช้ ตลอดชีวิต หรือเลือกที่จะเอาคืนก็ได้
กองทุนนี้ไม่ว่าอยู่แล้ว
ใครที่อายุเกิน60ปีขึ้นไป หากสนใจออมเงินดังที่กล่าวคงต้องรีบไปสมัครที่ธนาคารใดธนาคารหนึ่ง คือ กรุงไทย ออมสิน ธกส. ขอสมัครเป็นสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ แต่วันนี้
เพราะสิทธินี้จะมีให้ถึง25 ก. ย เท่านั้น ต่อไปจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษนี้แล้ว
รีบออมแต่วันนี้ วันหน้าจะได้มีเงินพอเพียงไว้ใช้จ่ายเมื่อรวมกับเงินเลี้ยงชีพคนชราอีก600บาท อย่างน้อยไม่อดตาย แต่ต้องอดทน จนกว่าปทไทยจะมีรัฐบาลที่ร่ำรวย ปทชาติไม่มีการทุจริต เอกชนไม่มีโกงภาษี
เมื่อนั้นรัฐบาลอาจจะให้บำนาญเลี้ยงชีพเพียงพอที่จะอยู่สบายโดยไม่ต้องทนอดได้
ใส่ความเห็น