ความอยาก
• ความอยาก
โลภนักมักลาภหาย
มักหลาย กลายบ่ได้
อยากกินหลายได้กินเท่าก้อย
อยากกินน้อย ได้กินเท่าโป้มือ (นักปราชญ์ท่านกล่าวไว้)
ความโลภเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อผู้หวังความเจริญก้าวหน้า ไฟแห่งความโลภเป็นไฟที่สำคัญ เป็นไฟกองใหญ่กองหนึ่งที่เป็นอันตราย ที่คอยทำลาย ทั้งตน ทำลายญาติ ทำลายสังคม ทำลายประเทศชาติบ้านเมืองในที่สุด
เหตุเพราะความอยากนี่แหละ คือความต้องการที่เกินปริมาณ เป็นความต้องการที่ไม่พอดี ด้วยเหตุดังกล่าวก่อให้เกิดการผิดศีลผิดธรรม เป็นการล่วงละเมิดต่อสิทธิของผู้อื่น จนกระทั่งขาดความชอบธรรม ขาดความเป็นธรรม
ด้วยความหลงผิด ไม่รู้ตัวว่ามันเกินไปแล้ว ผิดไปแล้ว พลาดไปแล้ว
เหตุเพราะ ขาดสติ ขาดปัญญา ความไม่รู้ความรู้ไม่จริงเข้าครอบงำแล้ว ก่อให้เกิดความร้อน ร้อนทั้งกายร้อนทั้งใจ เปรียบประดุจไฟที่สุมใจ ให้เร่าร้อนทั้งกลางวันแม้กลางคืน เกิดทุกข์โทษเวรภัยทั้งต่อชีวิตตน และบุคคลอื่น
เหตุเพราะการขาดกำลังใจ ขาดพลังที่จะควบคุมคนเองให้อยู่ในกรอบกติกาของสังคม ให้อยู่ในกรอบกติกาของศีลธรรม ให้เป็นคนดี ไม่เป็นคนร้าย
ทางแก้ไข ควรที่จะแก้ไขที่ใจคน ใจของคนนั้นสามารถแก้ไขได้ ให้กลับใจที่ร้ายให้กลายเป็นดี ให้ใจที่อ่อนแอนั้นแข็งแกร่งขึ้นได้
ด้วยวิธีง่าย ๆ คือการทำสมาธิ ในหนทางที่ถูกต้อง เมื่อบุคคลได้ทำสมาธิแล้ว ใจก็จะสงบลง ใจก็จะนิ่งขึ้น กำลังใจหรือพลังจิตก็จะเพิ่มขึ้นเป็นอัตโนมัติ ความสุขความสบายใจก็จะเกิดขึ้น เปรียบเหมือนน้ำที่ดับไฟ เมื่อน้ำมากพอก็ดับไฟลงได้ ไม่ต้องเดือดร้อน
ใจของบุคคลก็เช่นเดียวกัน เมื่อใจที่ร้อนเป็นไฟได้เย็นลงแล้ว การดำเนินชีวิตดำเนินไปด้วยความมีสติและปัญญา ชีวิตตนก็จะก่อให้เกิดความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป
ด้วยเหตุเพราะชีวิตได้เดินทางถูก สู่ความสำเร็จดังความตั้งใจในที่สุด ตรงกันข้ามชีวิตที่เดินทางผิดได้รับความเร่าร้อน ได้รับความทุกข์ ประสบความล้มเหลวในที่สุด
รังสรรค์ อินทร์จันทร์
11/12/58
ใส่ความเห็น