ศาลเยาวชนฯกลางนัดไต่สวน “สาวซีวิค” สั่งบำเพ็ญประโยชน์ใหม่ 138 ชม.

ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางนัดไต่สวน คำร้องที่พนักงานคุมประพฤติพนักงานอัยการโจทก์ร่วมที่12 และทนายความโจทก์ร่วมที่1– 9 จำเลย ผู้ปกครองจำเลย และที่ปรึกษากฎหมายจำเลย ในคดีที่เยาวชนหญิงขับรถซีวิคเฉี่ยวชนรถตู้บน ทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2553 จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต รวมทั้งสิ้น 9 ราย โดยคำร้องระบุว่า จำเลยผิดเงื่อนไขการคุมประพฤติในการบำเพ็ญประโยชน์ หลังจำเลยได้ทำงานบริการ สังคมที่โรงพยาบาลพระมงกุฎที่มีหัวหน้าหอผู้ป่วยและผู้อำนวยการโรงพยาบาลลงลายมือชื่อรับรอง ซึ่งในวันนี้ จำเลยและที่ปรึกษากฎหมายจำเลยแถลงว่า จากการที่ได้รับฟังคำเบิก ความของพนักงานคุม ประพฤติ เกี่ยวกับกฎ ระเบียบเกี่ยวกับการคุมประพฤติ จึงเข้าใจว่า ที่ผ่านมาจำเลยกระทำการมิได้เป็นไปตาม กฎระเบียบการคุมประพฤติของทางราชการ ขอโอกาสศาลเพื่อทำกิจกรรมบริการสังคมใหม่และ รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติให้ครบถ้วน ทำให้เจ้าพนักงานคุมประพฤติ โจทก์ที่ 7 โจทก์ร่วมที่ 12 ทนายโจทก์ร่วมที่ 1 ถึง 9 ไม่ติดใจนำพยานอื่นเข้าไต่สวน ขณะที่จำเลยและที่ปรึกษากฎหมายจำเลย ก็ไม่ติดใจนำพยานเข้าไต่สวนเช่นกัน

เมื่อศาลพิจารณาคำร้อง พร้อมเอกสารแนบท้ายคำร้องแล้ว พบว่า การบริการสังคม ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎของจำเลยที่มีหัวหน้าหอผู้ป่วยและผู้อำนวยการโรงพยาบาลลงลายมือชื่อ เป็น การทำกิจกรรมบริการสังคมซึ่งไม่ใช่พนักงานคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ที่กำหนดไว้ ทำให้จำเลย ยังไม่ได้ทำกิจกรรมสังคมภายใต้การกำกับดูแลของพนักงานคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม จึงอนุญาต ให้จำเลยไปทำกิจกรรมบริการสังคมใหม่ให้ครบถ้วนเวลา 138 ชั่วโมง โดยให้จำเลยไปติดต่อเจ้าพนักงานคุมประพฤติ ตั้งแต่วันนี้ และนัดพร้อมเพื่อฟังผลการทำกิจกรรมบริการสังคมของจำเลย โดยให้พนักงานคุมประพฤติ รายงานผลให้ศาลทราบก่อนอย่างช้าในวันนัดในวันที่ 23 สิงหาคม 2559 เวลา 09.00 นาฬิกา