ร้องทุกข์วันนี้เหตุเกิดที่สำนักงานอัยการจังหวัดจันทบุรี เมื่อหญิงอายุวัยเลข6ขึ้นไปหาอัยการศาลสูง ฃึ่งเธอก็เพิ่งจะรู้นี่แหละว่าชื่ออะไรมันแปลกๆอัยการศาลสูง นึกว่าจะได้พบข้าราชการระดับ6ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณธรรม

ที่ไหนได้เธอบอกว่าเริ่มต้นที่เจอหน้า ไม่รู้อารมณ์เสียมาแต่ไหน ใส่เธอฉอดๆตั้งรับแทบไม่ทันว่านี่หรือข้าราชการระดับสูงแต่จิตทำไมต่ำ

เธอบอกว่าอัยการศาลสูงคนนี้บอกเธอว่า ผมเป็นอัยการต้องให้ความเป็นธรรมแก่ผู้เสียหายและตัวจำเลยด้วย

เอาละฃิไม่รู้ใครออกนโยบายตัวนี้มา ถ้าจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายนี่ มันก็แปลกๆอยู่นะ เป็นทนายแก้ต่างให้ผู้เสียหายแล้วต้องให้ความเป็นธรรมแก่จำเลย ด้วย งานมันจะประสบความสำเร็จไหมนี่ หรือไม่ได้สองต่อหรือเปล่า เอะยังไง

แต่ช่างเถอะเอาทุกข์นี้ของป้าแกก่อน ป้าแก่บอกต่อว่า อัยการคนนี้บอกว่า แกจะมาบีบให้อัยการอุทธรณ์ไม่ได้หรอกนะ ป้าแกบอกว่า ไม่ได้มาบีบมาขอความเป็นธรรมให้ช่วยอุทธรณ์ หน่อยเพราะแกไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาของศาล

แทนที่อัยการจะมีเมตตาธรรม เพราะแกยกคำพิพากษาฎีกาว่าคดีอย่างนี้เคยตัดสินไว้แล้วอย่างนี้ อัยการคนนี้โกรธหัวฟัดไปมา บอกว่า ผมเป็นอัยการจังหวัดมาแล้ว มีความรู้กฎบัตรกฎหมายมากมาย จะมายกฎีกา ไหนฎีกาเลขอะไรจะได้ตรวจสอบ

ป้าบอกไม่ได้จำมา จะมาบอกวันหลัง 555 อัยการยิ่งไม่พอใจที่ป้าแกเถียงฉอดๆไม่กลัวอำนาจบารมีอัยการผู้ยิ่งใหญ่เลยป้านี่

อัยการเฒ่าชแลแก่ชราคนนี้ก็ไม่เบา โทรเรียกจนทสาวสวยเข้ามาร่วมวงสนทนายังไม่ทันห้านาที ที่ป้าแกแสดงความเห็นทางคดีส่วนตน อัยการบอกจนทให้ไปตามตำรวจมาเชิญตัวป้าออกนอกห้อง

ป้าแกบอกงงมาก เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็นข้าราชการห..าๆแบบนี้ แกเลยบอกให้ไปเรียกมาเลย ที่นี่มันสถานที่ราชการนะมีไว้บริการปชชนะ ว่าแล้วแกก็ก้าวขาออกไปห้องตรงข้ามพบอัยการจังหวัด

อัยการจังหวัดน่ารักรีบออกมาพบ ป้าแกก็เล่าเรื่องที่เกิดให้ฟัง

อัยการจังหวัดพูดด้วยอารมณ์ดีว่า ผมช่วยป้าไม่ได้หรอก เพราะอัยการศาลสูงนี่มีอำนาจมากกว่าผม

อ้าว เป็นงั้นไป ป้าแกหายตกใจเพราะขวัญหนีดีฝ่อทีจะเอาตำรวจมาลากตัวแกออกไปนอกห้องแล้ว คราวนี้แกเลยพูดเสียงดังให้ได้ยินทั่วสำนักงานให้คนรู้ว่าแกมาติดต่อราชการ สถานที่ราชการทำไมมีข้าราชการแบบนี้มานั่งทำงาน มันน่าจะอยู่บ้านเลี้ยงหลานไปนะ

คนแห่มาฟังแกพูดทั้งสำนักงาน ฝ่ายอัยการจังหวัดไม่รู้กลัวใครจะรู้หรือไง รีบผลักให้ป้าแกเดินเร็วๆเพื่อจะให้พ้นประตูสำนักงานให้ได้ ป้าแกขำก็ขำ โมโหก็โมโห แกเลยบอกว่า ไม่ต้องมาผลัก

ผมไม่ได้ผลัก

ไม่ผลักได้ไงก็ผลักอยู่นี่ไง

ฮา

ว่าแล้วป้าแกก็ประกาศว่าแกชื่อ อะไร ทำงานที่ไหน โอ้โห นามสกุลดังเสียด้วย แถมป้าแกมีฐานะดีอีกแนะ ฐานันดรก็ดีอีกด้วยนะ

ป้าแกย้อนถามเสียงดังว่า คนอย่างฉันยังโดนไล่อย่างกับหมู หมา อย่างนี้ ตาสีตาสาจะโดนขนาดไหน

แกทิ้งคำถามนี้ไว้เพื่อฝากให้อัยการสูงสุด ช่วยพิจารณาตอบแกหน่อย พร้อมถามต่อว่า การบริหารงานของอัยการสูงสุดให้ลูกน้องทำกับประชนอย่างนี้หรือไง

คำถามที่รอคำตอบ

ท่าน นิพัฒน์ ภูชฎาภิรมย์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูงภาค2 ท่านตอบมาว่า เสียใจที่มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น ทางสำนักงานอัยการพยายามประกาศให้ประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมมาพบอัยการ กรณีนี้คงจะต้องตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง แต่ได้ทราบว่าผู้ร้องทุกข์ได้ไปร้องขอความเป็นธรรมจากอัยการสูงสุดแล้ว เรื่องคงส่งมาให้ตนตรวจสอบต่อไป

( 9/12/58)

” ทุกชีวิต ล้วนเป็นไปตามกรรม ”

” .. คนไม่ได้เกิดมาเสมอกันทุกคนไป มีเกิดในตระกูลสูง เกิดในตระกูลต่ำ เกิดในเครื่องแวดล้อมดี เกิดในเครื่องแวดล้อมไม่ดี ทั้งนี้ก็เพราะเป็นไปตามกรรม
กรรมในอดีตชาติของผู้ใดดี ผู้นั้นก็ได้เกิดดีในภพชาตินี้ การที่จะให้กิริยาวาจาใจของทุกคน เหมือนกันหมด จึงเป็นไปไม่ได้ ต่างก็เป็นไปตามกรรมของตน
ความคิดให้ถูกต้องจะทำให้คลายความขัดเคืองใจ เมื่อได้พบ ได้เห็น ได้ยิน ได้ฟังกิริยาท่าทาง หรือถ้อยคำน้ำเสียงที่ไม่สุภาพเรียบร้อย แต่รุนแรงหยาบคาย
คนเราเกิดมาไม่เสมอกัน ได้รับการอบรมมาแตกต่างกัน เป็นความบกพร่องของแต่ละคน แต่ละอดีตชาติ ที่ประมาทในการทำกรรม ไม่ทำกรรมดี จึงเลือกเกิดให้ดีในภพชาตินี้ไม่ได้ .. ”

(สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก)