ความไม่รู้

​วิชชา ความรู้เป็นสิ่งปรารถนาของมนุษย์เรา
​อวิชชา ความไม่รู้ หรือรู้ไม่จริงเป็นสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาของมนุษย์เรา
​โลกสมัยนี้มีความเจริญของวัตถุอย่างมาก การศึกษาเป็นกระบวนการที่สำคัญยิ่ง ธุรกิจ เศรษฐกิจ เป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญต่อปากท้อง
​ภัยต่าง ๆ ทั้งภัยจากความแห้งแล้ง ภัยจากธรรมชาติ ภัยจากเศรษฐกิจ ภัยจากสังคม ภัยจากสภาพแวดล้อมต่าง ๆ กดดันมนุษย์เราเป็นอันมาก และแนวโน้มดูว่าจะมากขึ้นเรื่อย ๆ
​ชีวิตคือการต่อสู้ ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต หมดลมหายใจก็ตายจากกัน มีชีวิตอยู่ก็ต้องต่อสู้กันต่อไป
​การที่จะประสบความสุขและความเจริญ ประสบความสุขและความสำเร็จได้นั้น ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญก็คือความรู้ ยุคนี้สมัยนี้คงจะต้องเรียนรู้กันตลอดชีวิต หากเรียนช้า อาจได้บทเรียนที่ราคาแพง การเรียนรู้นั้นจึงจำเป็นต้องเรียนรู้ให้เร็ว
​ความไม่รู้นั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัว เหตุเพราะด้วยความไม่รู้ หรือรู้ไม่จริง เสี่ยงสูงที่จะเกิดความเสียหายขึ้นได้
​การคบบัณฑิต หรือผู้รู้จึงเป็นมงคล สำคัญยิ่งต่อความเจริญก้าวหน้า กัลยาณมิตรนั้นเป็นปัจจัยต่อความสำเร็จอย่างแท้จริง เพื่อนดี มิตรดี สหายดี ทำอะไรก็สำเร็จง่าย
​การพัฒนาตนเอง การลงทุนเรียนรู้นั้นเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ายิ่ง
​นอกจากการแสวงหาผู้รู้จากภายนอก โดยมีกัลยาณมิตรแล้ว การพัฒนาตนเอง พัฒนาความรู้สู่ความสำเร็จ หรือ ญาณนั้นเป็นสิ่งสำคัญสุดที่ตนจะเป็นที่พึ่งแห่งตน มนุษย์เรานั้นแต่ละคนมีความสามารถ เรียกว่ามีดีมาแต่เกิด เราสามารถพัฒนาดีในตัวเราขึ้นมาได้ ซึ่งทุกคนนั้นสามารถทำได้ โดยพัฒนาสมาธิ ฌาน ญาณ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ควรแก่การศึกษา และฝึกฝน เพื่อพัฒนาตน โดยวิธีง่าย ๆ โดยสัมมาสมาธิ หากเราดำเนินสัมมาสมาธิ ทำให้มาก เจริญให้มาก ความสุขความเจริญ ความสุขความสำเร็จ ก็จะมีแก่ตน แต่สมาธิมีทางถูกมีทางผิด หากเป็นมิจฉาสมาธิเป็นทางผิดทำลายตน
​ใจของแต่ละคนนั้นเป็นสมบัติที่มีค่ายิ่ง ควรที่เราจะได้ศึกษาและพัฒนาตน เมื่อได้หนทางแล้ว กระทำให้มาก เจริญให้มาก วิชชาก็จะเกิดขึ้นแก่ตน ความรู้ยิ่ง ความรู้ดีก็จะเกิดขึ้นแก่ตน ความรู้แจ้งและเห็นจริงก็จะเกิดขึ้นแก่ตนได้ในที่สุด

 

​​​​​​​​รังสรรค์ อินทร์จันทร์
​​​​​​​ที่ปรึกษา งานพัฒนาบุคคลสู่ความเป็นเลิศ
​​​​​​​​ 14/03/59