ปปช.เปิดช่องประกาศของธรรมนัสเป็นคุณให้ที่ดินสปก.ทำโรงแรมบนดอยแม่สลองได้พร้อมเรียกร้องนักกฎหมายรวมตัวฟ้องศาลปกครองฯว่าประกาศนั้นขัดต่อเจตนารมย์ในการออกพรบ.สำนักงานปฎิรูปที่ดินหรือไม่ 

เมื่อวานนี้ปปช.เชียงราย จัดประชุมปฎิบัติการ หัวข้อ “ สถานการณ์การบุกรุก การป้องกันและการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ “ดอยแม่สลอง” ที่ ชยานารีสอร์ทอ.แม่จัน จ. เชียงราย มีจุดประสงค์เพื่อแลกเปลื่ยนความคิดเห็นและหาข้อสรุปร่วมกับข้าราชการและเอกชนในพื้นที่ เกี่ยวกับปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะ ต่อสถานการณ์การบุกรุก โดยมี นาย ณภัทร เตโช. ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปช. จังหวัดเชียงราย มาร่วมในการประชุมตอนหนึ่งได้พูดว่า ตนยังไม่เห็นว่ามีใครมาแจ้งต่อปปช.ให้เอาผิดข้าราชการที่ละเลย ละเว้น ต่อการก่อสร้างโรงแรมบนดอยแม่สลองรวมทั้งการออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ฃึ่งต้องใช้เอกสารประกอบการขออนุญาตเช่นโฉนดบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน หากมีคนร้องเรียนมาตนจะสั่งสอบว่าออกใบอนุญาตมาได้อย่างไร ขอให้มีคนร้องเข้ามานะเพราะปปช.ไม่สามารถไปดำเนินการอย่างไรได้ถ้าไม่มีคนร้อง

แต่ตนได้เห็นประกาศของสปก.ฉบับหนึ่ง ระบุว่า อนุญาตให้คนที่ใช้ที่ดินของสปก.ทำโรงแรมได้ ดังนั้นเมื่อประกาศนี้เป็นคุณจึงสามารถย้อนหลังเป็นประโยชน์แก่ผู้ทำผิดได้ แต่หากประกาศเป็นโทษจะย้อนความผิดไม่ได้

ผู้สื่อข่าว ถามต่อว่า ประกาศฉบับนี้ลงนามโดยรัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์. คือ คุณ ธรรมนัส ได้ถอนคำว่าโรงแรมออกไปแล้ว 

นาย ณภัทร เตโช ผอ.ปปช.เชียงราย กล่าวตอบว่า ตนยังไม่เห็นนะ ถ้าใครมีประกาศที่ถอนประกาศเดิมฉบับใหม่ช่วยเอามาให้ตนดูด้วย 

ผู้สื่อข่าว ถามต่อว่า.   หากสิ่งที่ผอ.ปปช.กล่าว เป็นการเปิดทางให้ผู้ที่อยู่ในที่ดินสปก.สร้างอาคารประกอบธุรกิจโรงแรมได้โดยไม่มีความผิด นั่นหมายถึงเป็นการขัดกับพรบ.สำนักงานปฎิรูปที่ดิน หรือไม่ ที่กำหนดให้ผู้ใช้ที่ดินสปก.ได้ ต้องเป็น 1 เกษตรกรเท่านั้น 2. เป็นผู้ยากจน ไม่มีที่ดินทำกิน 3. ประกอบการเกษตร และกิจการที่เกี่ยวเนื่องไม่ใช่เป็นนายทุนสร้างอาคารใหญ่โตอย่างที่ดอยแม่สลอง

ผอ.ปปช.เชียงราย กล่าวว่า ประกาศที่ออกมาให้ผู้อยู่ในที่สปก.สร้างโรงแรมได้

ผู้สื่อข่าว ได้ค้นประกาศที่ออกมาฉบับดังกล่าว พบว่า นาย ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.กระทรวงเกษตรฯ ได้ลงนามประกาศคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เรื่อง “รายนามกิจการอื่นที่เป็นการสนับสนุนเกี่ยวเนื่องกันกับการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมฯ” 

(อ่านประกาศhttp://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/302/T_0060.PDF )

โดยระบุกิจการเกี่ยวเนื่องฃึ่งก่อนหน้ามีการแก้ไขพรบ.มาก่อนแล้วที่เรียกว่า การแก้ไขในมาตรา 30(5) ที่ให้คนใช้ที่ดินสปก.สามารถทำกิจการต่อเนื่องได้ในชุมชนได้ แต่การที่นาย ธรรมนัส ออกประกาศฉบับใหม่มานี้ เพิ่มจากที่ได้ระบุไว้ในพรบ.สำนักงานปฎิรูปที่ดิน มาตราดังที่กล่าว โดยเฉพาะครั้งนี้ขยายกิจการมากมายหลายชนิด อันเป็นการทำที่ดืนของสปก.ให้กลายเป็นชุมชนเมืองขนาดใหญ่ได้โดยเปลื่ยนจากคนยากจนไม่มีที่ดินทำกินกลายเป็นนายทุน

เมื่อดูจากรายการกิจการที่ข้อ 1.5 (12)ระบุว่าให้ทำกิจการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ที่พัก และหอพัก ได้นั้น ยิ่งทำให้ผิดเจตนารมย์ในการออกพระราชบัญญัติฉบับนี้โดยสิ้นเชิง 

เพราะนั่นคือการเปิดทางให้นายทุนใช้ที่ดินสปก.ไม่เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ โดยเฉพาะสปก.อ้าง”เยียวยา”ยึดที่ดินคืนสปก.แต่กลายเป็นเอาหอพักที่สร้างในที่สปก.ไปให้เช่า เรียกว่า พะเยาว์โมเดล เป็นต้นแบบในปัจจุบันที่นาย ธรรมนัส ออกประกาศมาในครั้งนี้

ฃึ่งเรื่องนี้นาย ณภัทร เตโช ผอ.ปปช.เชียงราย กล่าวว่า ถ้านักกฎหมายรวมตัวกันแล้วเห็นว่าประกาศนี้ไม่ถูกต้อง ให้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางได้เลย 

เกี่ยวกับการออกประกาศนี้ทำให้เป็นที่กล่าวขวัญของสังคมเป็นอย่างมาก ทำให้นายธรรมนัส ออกมาถอนคำว่า “โรงแรม”ออกจากประกาศ เหลือไว้แต่ คำว่าที่พัก ฃึ่งก็หมายถึงอนุญาตให้เอาไปทำโฮมสเตย์ สี่ห้องได้ หรือทำเป็นเต๊นท์ให้เช่าพักอย่างที่ดอยแม่สลองและที่อื่นๆกำลังนำที่สปก.ไปทำผิดวัตถุประสงค์นั่นเอง ดังนี้แล้วจึงน่าจะมีการฟ้องร้องไปที่ศาลปกครองให้ถอนประกาศ อีกทั้งการแก้ไขพรบ.สำนักงานปฎิรูปที่ดินมาตรา30(5) ขัดกับเจตนารมย์ในการออกพรบ. ฃึ่งต้องยื่นเรื่องให้ศาลพิจารณาและข้าราชการที่แก้กฎหมายนั้นตลอดจนเอาที่ดินอ้างว่าเยียวยาไปให้เอกชนเช่าทำหอพักที่พะเยานั้นเจตนาไม่ชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐและประเทศ 

สังคมจึงควรออกมาช่วยกันทำกฎหมายให้ศักดิ์สิทธิไม่ใช่ปล่อยให้นักการเมืองหาประโยชน์จากที่ดินหลวงโดยใช้คำว่า”เยียวยา”มากกว่าการป้องกัน แก้ปัญหา เพื่อหาผลประโยชน์

เป็นการตั้งใจละเลย ละเว้นต่อหน้าที่ที่ต้องปฎิบัติ

และทุจริตต่อหน้าที่