หนุนส.ส อภิปรายภาษีที่ดินฯ สร้างความเดือดร้อนให้ปชช.ระดับล่างมากกว่าระดับบน ด้านภาคประชาชนร้องผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอระงับใช้ก.ม.ภาษีที่ดินไม่มีกำหนดชี้ที่มาขัดรธน.-เนื้อหาไม่เหมาะสมสร้างภาระแก่ประชาชน
หนุนส.ส อภิปรายภาษีที่ดินฯ สร้างความเดือดร้อนให้ปชช.ระดับล่างมากกว่าระดับบน ด้านภาคประชาชนร้องผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอระงับใช้ก.ม.ภาษีที่ดินไม่มีกำหนดชี้ที่มาขัดรธน.-เนื้อหาไม่เหมาะสมสร้างภาระแก่ประชาชน
วันนี้(27ธ.ค.62) นายพลภาขุน เศรษฐญาบดี ผู้แทนคณะราษฎรไทยแห่งชาติ(ครช.) เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้มีข้อเสนอแนะภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อชะลอการบังคับใช้พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง2562 ที่จะบังคับใช้วันที่1 ม.ค.นี้ออกไปก่อน
เนื่องจากเห็นว่าเรื่องนี้ประชาชนทั่วไปถือเป็นผู้มีส่วนได้เสียสำคัญและเป็นผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิจากการออกกฎหมายดังกล่าวเพราะสร้างความโกลาหลสร้างภาระแก่ประชาชนเป็นอย่างมากอีกทั้งกฎหมายดังกล่าวมีที่มาที่ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา58 และ77 อย่างชัดเจนเนื่องจากในการออกกฎหมายดังกล่าวไม่มีการทำประชาพิจารณ์หรือรับฟังความเห็นจากส่วนที่เกี่ยวข้องประชาชนไม่มีส่วนร่วมแต่อย่างใด
ส่วนเนื้อหาของกฎหมายก็มีความไม่เหมาะสมเพราะมีการกำหนดให้รายได้จากการเก็บภาษีดังกล่าวที่มีมูลค่ามหาศาลให้เป็นรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถือว่าขัดรัฐธรรมนูญมาตรา3 เนื่องจากเป็นการบังคับให้ประชาชนจ่ายภาษีให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งสร้างภาระกับประชาชนทำให้ประชาชนกลายเป็นทาสขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
เนื่องจากการเก็บภาษีดังกล่าวไม่ได้สร้างประโยชน์หรือความผาสุขให้แก่ประชาชนและชุมชนและยังเปิดช่องให้มีการใช้ดุลยพินิจจนยากจะตรวจสอบได้ขณะที่อัตราภาษีที่ตั้งไว้สูงมากมีความหยาบเนื่องจากการประกอบอาชีพการทำกิจกรรมในที่ดินไม่ได้มีแค่การเกษตรแต่เนื้อหาของกฎหมายดังกล่าวกลับให้สิทธิพิเศษแค่เกษตรกรซึ่งถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา26 และ27
ล่าสุดมีข่าวของกลุ่มผู้ถือครองที่ดินในเขตที่มีราคาสูงก็มีการเลี่ยงภาษีโดยการปลูกมะนาวในที่ดินทำให้เลี่ยงภาษีจากที่ต้องเสียร้อยละ1.2 ของราคาประเมินที่ดินกลายเป็นเสียภาษีร้อยละ0.3 ของราคาประเมินที่ดินทั้งที่เจตนาในการออกกฎหมายนี้คือการลดความเหลื่อมล้ำแต่วิธีการจัดการกลายเป็นการสร้างภาระให้แก่ประชาชนทั้งประเทศที่สำคัญสภาวะเศรษฐกิจขณะนี้ถือว่าวิกฤติที่สุดมีการฆ่าตัวตายรายวันมีการปิดกิจการโรงงานหลายแห่งประชาชนที่มีตึกอาคารพาณิชย์ที่ไม่มีอาชีพที่ปิดไว้ไม่รู้จะทำอาชีพอะไรก็ต้องมาเจอภาระภาษีซึ่งกลายเป็นที่รกร้างไม่ได้ทำกิจการและต้องจ่ายอัตราภาษีที่สูง”
นายพลภาขุน กล่าวอีกว่าที่ผ่านมาทางกลุ่มครช. ได้ทำหนังสือไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรวมทั้งยื่นเรื่องถึงนายกฯผ่านศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์แล้วแต่ยังไม่ได้รับคำชี้แจงหรือการปฏิบัติให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา43 แต่ประการใด
ด้วยเหตุดังกล่าวจึงนำเรื่องมาร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อให้มีความเห็นเสนอยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้ระงับการบังคับใช้ออกไปอย่างไม่มีกำหนดและขอให้นำข้อกฎหมายเดิมมาถือปฏิบัติก่อนแต่หากส่วนราชการยังไม่มีการดำเนินการก็ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินใช้อำนาจตามพ.ร.ป.ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดินมาตรา23(2) ในการฟ้องคดีต่อศาลปกครองรวมทั้งขอให้เสนอความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญตามมาตรา23(1)
วีคลี่นิวส์ได้สอบถามความเห็นของปชช. เกี่ยวกับภาษีดังกล่าวต่างออกเสียงกันว่าไม่เห็นด้วย เนื่องจากเป็นการจัดเก็บไปทุกหย่อมหญ้า โดยสามปีนี้เกษตรกรอาจยังไม่เห็นแต่หลังจากนั้นจะรู้ว่าภาษีที่ต้องจ่ายจะกระทบกับตนเองอย่างไร เนื่องจากอาชีพเกษตรเป็นอาชีพที่ต้องพึ่งลมฟ้าอากาศ หากผลผลิตไม่ได้ผล จะเอาเงินที่ไหนจ่ายภาษีและหากไม่จ่ายก็จะถูกคิดเบี้ยปรับถึงร้อยละ40 พร้อมกับเบี้ยเพิ่มอีกร้อยละ 1 ต่อเดือน ฃึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมาก
ขณะเดียวกันไม่มีการกำหนดเงื่อนไขในการจัดเก็บว่าเก็บมาเพื่อดำเนินการอะไร เจาะจงใช้ในงานใด หากเก็บมาเพื่ออ้างว่าใช้ในท้องถิ่นเวลานี้ก็เห็นแล้วว่างบประมาณส่วนใหญ่ที่ได้รับจากกรมฯนำไปใช้เป็นค่าจ้างพนง.สูงที่สุดจนไม่เหลือพอที่จะมาใช้เพื่อปชช.
ใส่ความเห็น