“ประชาธิปไตยเพื่อประชาชน” (repost)

เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา..ประเทศมาเลเซียมีการเลือกตั้ง.. ผลปรากฎว่า นายมหาเดร์ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ชนะการเลือกตั้งแบบพลิกความคาดหมายแบบถล่มทลาย..
จากที่คิดว่าต้องแพ้แน่ๆ.. กลับได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง.. เป็นนายกฯที่อายุมากที่สุดในโลก.. คือ 90 กว่าปี..

ทั้งๆที่ ฝ่ายรัฐบาลซึ่งเคยได้รับความนิยมสูงมาก..พอครบวาระก็วางแผนไว้ก่อนการเลือกตั้งเป็นอย่างดี.. ใช้ทั้งนโยบายประชานิยม.. และกลยุทธ์ต่างๆเพื่อจะได้กลับมาเป็นนายกฯใหม่..

แต่พอเลือกตั้งจริง.. พรรครัฐบาลกลับพ่ายแพ้อย่างราบคาบ.. พลิกความคาดหมาย..

ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น…

ท่านมหาเดร์ไม่ได้ชนะเพราะเขาพูดเก่งตอนหาเสียง.. และพรรคฝ่ายรัฐบาลก็ไม่ได้แพ้เพราะประมาทคู่แข่งทางการเมือง..

แต่ที่เขาแพ้ชนะกัน ..เป็นเพราะความคิดของประชาชนที่ไปเลือกตั้ง.. ประชาชนที่มีความคิดและมีความเป็นตัวเอง…
ไม่สนใจการชี้นำ…

ไม่ว่า นักการเมืองเขาจะดี หรือเลว.. หรือใช้เงินซื้อเสียงมากเพียงใด..

ไม่ว่า นักการเมืองเขาจะเอาใจ หรือทำประชานิยมขนาดไหน..และ

ไม่ว่า นักการเมืองเขาจะทำตนให้เป็นที่รักของประชาชนได้มากเพียงใด..

ประเทศนั้น จะเกิดประชาธิปไตยหรือไม่ .. ก็ขึ้นอยู่กับประชาชนเป็นผู้ตัดสิน..

ประชาชนที่เข้าใจและยึดตึดกับระบบประชาธิปไตย.. มากกว่าตัวบุคคล..

ประชาชนที่เห็นประโยชน์ของชาติ.. มากกว่าประโยชน์ที่วางอยู่เบื้องหน้า..
ไม่สนใจเงินแลกเสียง.. ไม่สนใจนโยบายที่แสนจะเอาใจ.. ไม่สนใจว่า ตนรักหรือเกลียดผู้นำคนไหน..

สำนึกของพวกเขา..พ้นตรงนั้นมาแล้ว..

การเลือกตั้งครั้งนี้ของมาเลเซียแสดงให้เห็นความเป็นประชาธิปไตยของประชาชนชาวมาเลย์..
ขอชื่นชม และควรเอาเยี่ยงอย่าง..

มหาเดร์คนนี้แหละ.. ผมจำได้ว่า สมัยวิกฤติการณ์ต้มยำกุ้งที่เกิดขึ้นจากประเทศไทย..

วิกฤติการณ์ที่ทำให้ไทยเราไม่ได้เป็นเสือตัวใหม่แห่งเอเชีย.. อย่างที่ตั้งเป้าไว้..

วิกฤติการณ์ที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจไทยล่ม.. แล้วดึงเอาหลายประเทศล้มตามๆกันแบบโดมิโน่..

วิกฤติการณ์ที่ทำให้ประเทศไทยต้องให้ความคุ้มครองลิขสิทธิ์ของต่างประเทศอย่างจริงจัง..

จริงจังขนาดไหนครับ..

ก็ขนาดที่ประเทศไทยต้องจัดตั้งศาลใหม่ขึ้นมาศาลหนึ่ง.. เรียกว่า..

“ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ..”

เมื่อเศรษฐกิจล่ม.. แล้วทำไมต้องตั้งศาล.. มันเกี่ยวกันอย่างไง..

ก็เพราะตอนนั้นเราแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยการหาเงินกู้มาอัดฉีดระบบเศรษฐกิจภายใน..ด้วยคิดว่าวิธีนี้จะช่วยให้เราฟื้นตัวได้เร็ว..

รัฐบาลจึงตัดสินใจกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)..หลักหมื่นหลักแสนล้านบาท..

เพื่อแลกกับการได้รับเงินกู้.. IMF ยื่นข้อเสนอให้เราแก้ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ต่างชาติ.. ด้วยการตั้งศาลใหม่ดำเนินคดีอาญากับผู้กระทำความผิด..

แล้ว.. IMF (International Monetary Fund) นี่เป็นใคร..

IMF เขาเป็นองค์กรระหว่างประเทศครับ.. คล้ายๆกับ FATF ที่ดูแลเรื่องปราบปรามการฟอกเงิน.. ที่ทำให้เราต้องมีกฎหมายฟอกเงิน..
ที่ทำให้เราตั้งหน่วยงานใหม่ที่เรียกว่า.. ปปง..

และที่สอนให้เราเชื่อว่า..

“การริบทรัพย์ทางอาญาในคดีฟอกเงิน.. เป็นการริบทรัพย์ทางแพ่ง..
คดีฟอกเงินซึ่งเป็นคดีอาญาจึงต้องขึ้นศาลแพ่ง..
และให้ศาลแพ่งริบทรัพย์ผู้กระทำผิดได้แม้ ยังไม่มีคำพิพากษาว่าเขากระทำความผิดก็ตาม..”

IMF ก็คล้าย FATF คือ เป็นองค์กรระดับน้องๆของ UN..ซึ่งมีประเทศยักษ์ใหญ่ของโลกให้เงินบริจาคสนับสนุนอยู่..

เราเลยได้เงินกู้นับแสนล้านมาช่วยแก้ปัญหาในตอนนั้น..

ขณะที่ไทยแก้ปัญหาด้วยการกู้เงิน.. แต่มาเลเซียซึ่งเศรษฐกิจล้มตามไทยเหมือนกัน. ซึ่งนายกรัฐมนตรีของเขาในขณะนั้น ก็คือท่านมหาเดร์คนนี้แหละครับ..

มหาเดร์.. แก้ไขปัญหา แบบน่าเหนื่อยใจแทนครับ.. เพราะเขาเลือกที่จะไม่กู้เงิน IMF ..
เขาเลือกที่จะหาปลาเอง.. แทนที่จะกินปลาที่คนอื่นหยิบยื่นให้..

เขาแก้ปัญหาด้วยวิธีปรับค่าเงินภายในประเทศตามแนวคิดของอาจารย์มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดคนหนึ่ง..

ผลก็คือ..

ประเทศมาเลเซีย ไม่ต้องเป็นหนี้นับแสนล้าน..แถมยังสามารถฟื้นตัวจากพิษเศรษฐกิจได้ก่อนประเทศไทยครับ..

วันก่อนท่านมหาเดร์ บอกว่า ..ตนเองอายุมากแล้ว.. จะขอทำงานแค่ 2 ปี.. หลังจากนั้น จะให้เพื่อนเข้ามาเป็นนายกฯบริหารประเทศแทน..

เพื่อนของเขาคือ อดีตนักการเมืองคนหนึ่ง.. ที่เคยเป็นคู่แข่งทางการเมืองคนสำคัญ.. แต่ต้องติดคุก.. เพราะมหาเดร์คนนี้แหละ เป็นคนสั่งให้ตำรวจจับตัวดำเนินคดี..

นี่ขนาดเป็นคู่แข่งกันนะ.. ยังคิดสละตำแหน่งสำคัญให้..

ถ้าเขาทำได้ตามที่พูดจริงๆ..ถือว่า ท่านเป็น Gentleman มากๆนะครับ.. เพราะการปรองดอง. จะไม่ใช่เป็นเพียง วาทกรรมเท่านั้น…

ความคิดแบบนี้..แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์.. ความจริงใจ และความกล้าหาญ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของผู้นำประเทศ..

วันต่อมา ผมดูรายการทีวี เขาเชิญนักธุรกิจท่านหนึ่งมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้งในมาเลเซีย..
ผู้ดำเนินรายการถามแขกรับเชิญว่า ..

“ท่านมีความเห็นหรือรู้สึกอย่างไรครับ.. เมื่อนายกฯมหาเดร์ กลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง..
ท่านคิดว่าจะมีผลกระทบต่อกลยุทธ์นโยบายทางเศรษฐกิจของไทย ให้ต้องปรับเปลี่ยนอะไรบ้างมั้ยครับ”..

เธอตอบว่า ..

“น่ากลัวค่ะ.. เพราะมหาเดร์ ท่านเป็นคนซื่อตรง..และมีวิสัยทัศน์สูงมาก..จนเราตามไม่ทัน..
เชื่อว่า จะมีผลกระทบต่อนโยบายทางเศรษฐกิจของไทยอย่างแน่นอน..”

ฟังแล้ว.. น่าปลื้มใจแทนประชาชนชาวมาเลเซียมั้ยครับ..

ผมอยากได้นายกฯคนไทย.. ที่มีความสามารถจนทำให้ประเทศใกล้เคียงต่างเกรงขามแบบนี้..

หลายครั้งที่ประชาชนชาวไทย เรียกร้องและพูดถึง “ประชาธิปไตย”.. นักวิชาการก็มักกล่าวถึง..โดยอ้างอิงประเทศต้นแบบที่ไกลโพ้น…

ผมว่า ไม่ต้องดูไกลครับ.. ดูมาเลเซียเพื่อนบ้านใกล้เรานี่แหละ..

ดูผู้นำของเขา.. กับดูประชาชนชาวมาเลเซียที่เข้าถึงประชาธิปไตยด้วยจิตวิญญาณ..

ไม่ใช่เข้าใจตามตำรา..ตามที่ถูกชี้นำ..หรือตามความรู้สึกว่าตนเข้าใจ..

เอาอย่างเขาเถอะครับ..
#การทำความดีไม่น่าอาย..

ปล.. ผมไม่เคยฝักใฝ่พรรคการเมืองใด.. ไม่เคยสนใจการเมืองมานานแล้วเพราะการเมืองไม่น่าสนใจสำหรับผม..
และไม่ได้ให้ร้ายประชาธิปไตยในไทยเพราะเข้าใจดีว่าปัจจัยเงื่อนไขของแต่ละที่ย่อมแตกต่างกัน..

แต่ที่โพสต์ เพราะอยากเห็นประชาชนไทยเข้าใจการปกครองโดยประชาชนจริงๆ..จากตัวอย่างดีๆของประเทศที่เพื่อนบ้าน.. ที่ไม่ใช่ต้นแบบของประชาธิปไตย..

……………..

ธีร์รัฐ  บุนนาค