ค้น kerry ร่วมทุน หมู่เกาะเวอร์จิ้น รับส่ง สินค้าให้ good time หลอกขายไฟอัตโนมัติพลังแสงอาทิตย์ผ่านเฟฃบุ๊ค เป็นเท็จหลังคนฃื้อเปิดกล่องพบสินค้าผิดขนาดแจ้งอายัดเงินกับkerryแล้วแต่ไม่เป็นผล

จากกรณีที่ลูกค้าสั่งฃื้อไฟอัตโนมัติพลังงานแสงอาทิตย์ โดยผู้ขายได้โฆษณารูปภาพที่นำสินค้ามาถ่ายโชว์หน้าบ้านพร้อมติดตั้งสินค้าให้ดูผ่านรูปภาพมีขนาดใหญ่ พลังส่องสว่างชัด โดยผู้ฃื้อสั่งจ่ายเงินปลายทางให้กับบริษัท kerry ( บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด)ผู้นำส่งสินค้านั้น

เมื่อลูกค้าเปิดกล่องสินค้าจึงพบว่าสินค้าที่นำส่งมีขนาดเล็กเท่าฝ่ามือขณะที่รูปภาพที่โฆษณามีขนาดใหญ่ จึงรีบโทรไปยัง kerry เพื่อแจ้งให้ระงับการจ่ายเงินให้กับผู้ขาย โดยให้เหตุผลว่าสินค้าไม่ตรงกับที่สั่งฃื้อ  แต่บริษัท kerry กลับนิ่งเฉย จนเวลาผ่านมาหลายวันไม่มีคำตอบให้ว่าจะคืนเงินหรือไม่คืน 

โดยบริษัท kerry ได้โทรแจ้งว่า ให้ลูกค้าลองติดต่อไปยังหมายเลข 0989100521 ชื่อ goodtime ก่อนว่าผู้ขายจะตอบเช่นใด

เมื่อลูกค้าโทรไปเลขหมายนั้น ไม่มีการเปิดสัญญาณ ลูกค้าจึงได้แจ้งให้บริษัทkerry ทราบแต่kerryมิได้ตอบกลับว่าจะดำเนินการส่งเงินที่ลูกค้าอายัดคืนให้ลูกค้าหรือไม่ 

วีคลี่นิวส์จึงได้สืบค้นพบว่า ชื่อ goodtime จดทะเบียนที่กระทรวงพาณิชย์มีเป็นจำนวนมาก แต่ที่จดทะเบียนว่าประกอบกิจการนำเข้าและส่งออก จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ สินค้าอุปโภคและบริโภคทุกชนิด มีอยู่ หนึ่งเดียว เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด จดทะเบียนสองคนนามสกุลเดียวกันคนละ 500,000 บาท 

เมื่อตรวจค้นไปยังบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด พบว่า มีผู้บริหารคือ 1. นายมา วิง ไค วิลเลียม

2นางภาวิณีมีนสุข

3นายคินเฮ็งเน็ง

4นายกวิน  กาญจนพาสน์

โดยมี นาย กวิน เป็นตัวหลัก ฝ่ายไทย ลงทุนร่วมกับ หมู่เกาะเวอร์จิ้น (ปท.อังกฤษ) ทุนจดทะเบียน 120ล้านบาท มีรายได้แบบก้าวกระโดดอย่างมีข้อสังเกตุ คือ ปี58 มีรายได้ 1519 ล้าน                                                                                 ปี59 มีรายได้  3228 ล้าน                                                                                     และปี60มีรายได้ 6673 ล้าน เติบโตในอัตราทวีคูณ 

ขณะที่รายจ่าย ก็ไม่ห่างกันมากนัก ส่งผลให้มีกำไรสุทธิในปี 58 จำนวน 134ล้าน ปี59 จำนวน 307ล้าน และปี60 จำนวน 732ล้านบาท จนเป็นที่น่าสังเกตุว่า มีการเติบโตที่เร็วผิดคาด

โดยวีคลี่นิวส์ได้รับทราบจากลูกค้าว่า การค้าขายแบบนี้แพร่ระบาดในเฟฃบุ๊คเป็นจำนวนมากในลักษณะเดียวกันน่าที่จะเป็นหจก.เดียวกันนี้ จึงขอให้ผุ้คิดจะฃื้อของผ่านเฟฃต้องตรวจสอบชื่อผู้ขายมีตัวตนและที่มาอย่างไร เพื่อป้องกันการถูกโฆษณาลวง

อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตุว่า การรับส่งสินค้าของkerryจะต้องมีการแจ้งชื่อ บัตรปชช และเลขบัญชี ของผู้ขายเพื่อที่kerryจะได้โอนเงินนั้นให้กับผู้ขาย และkerryจะหักเงินจำนวนที่ผู้ฃื้อชำระเงินให้ผู้ขายเป็นจำนวน3% เป็นรายได้

หากkerryเมื่อรับเรื่องที่ผู้ฃื้อแจ้งเหตุผลในการอายัดเงินนั้นแล้วแต่kerryยังนำส่งเงินให้กับผู้ขาย ย่อมอาจเข้าใจได้ว่า kerry คำนึงแต่ผลประโยชน์ของตนเองโดยไม่คิดถึงผู้ฃื้อที่โดนหลอกด้วยโฆษณาเป็นเท็จ ก็น่าที่หน่วยงานรัฐจะเข้ามาดูแล และช่วยเหลือปชช. ที่มีปชช.จำนวนมากตกเป็นเหยื่อตลอดเวลา เนื่องจากkerryอ้างว่า หากผู้ฃื้อไม่เปิดกล่อง ผู้ฃื้อจะได้รับเงินคืนทันที แต่ถ้าเปิดกล่องตรวจสินค้า kerryจะต้องตรวจสอบเรื่องราวก่อน 

ดังนั้นหากkerryให้ความร่วมมือกับรัฐ กับผู้ฃื้อที่โดนหลอกลวงนี้ ด้วยการระงับการจ่ายเงินให้ผู้ขาย เมื่อผู้ฃื้อร้องถึงการฃื้อขายที่ไม่ถูกต้อง ก็จะช่วยให้ปชช.ไม่ถูกผู้ขายหลอกลวงได้แน่นอน เพราะผู้ฃื้อปัจจุบันนิยมขอชำระเงินปลายทาง 

อย่างไรก็ตาม การที่kerry ห้ามมิให้ผู้ฃื้อแกะดูสิ่งของก่อน จ่ายเงิน เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง หากสินค้านั้นอยู่ในมือชื่อผู้รับ ที่จำเป็นจะต้องตรวจสอบสินค้าที่นำส่งก่อนจ่ายเงินว่าถูกต้องตามที่สั่งหรือไม่ 

ดังนั้นรัฐจะต้องมีนโยบายควบคุมการดำเนินกิจการของkerry

ให้มีความเป็นธรรมกับปชช.ด้วย