. การที่เราทำความเพียรนี้ เราไม่ต้องการอะไรแล้ว นอกจากขัดจิตใจของเราให้ขาวให้สะอาดเท่านั้นแหละ

ใจมันเศร้าหมอง แต่อาศัยขัดอยู่บ่อย ๆ ขัดไม่หยุดไม่หย่อน มันก็ขาวก็สะอาดขึ้น ผ่องใสขึ้น

เพราะกิเลสคือ โลภะ โทสะ โมหะ มันหมักหมมมาหลายภพหลายชาติ ต้องคอยขัดคอยเกลา

เพราะกิเลสเหมือนตาปู ตีแฝก ตีลงแน่น แต่ก็ไม่เหลือวิสัยผู้ที่ตั้งอกตั้งใจจะถอนตาปู ถอนไม่หยุดไม่หย่อน ถอนไปถอนมามันก็ออกสั้นเข้า ๆ สั้นเข้ามันก็ถอนขึ้นได้

พระพุทธเจ้าสอนว่าจิตไม่ใช่จิตว่างนะ อย่าไปถือว่ามันจะว่างให้
ให้เรามีสติสัมปชัญญะ รู้ตัวเสมอ มันว่อกแวก ๆ อยู่อย่างนั้น เหมือนกันกับฟองน้ำ เดี๋ยวมันเกิดขึ้น เดี๋ยวมันดับ

ดวงจิตมันไม่รู้จักอะไรหมดทั้งนั้น มันอาศัยเราทรมาน คือเราได้ยินได้ฟังแล้ว เราก็ให้มีสติขัดเกลาสั่งสอนมัน ให้มันรู้

เพราะมันไม่รู้นี่แหละจิตดวงนี้แหละเรียกว่าอวิชชา คือความไม่รู้

ท่านสอนให้อบรมขัดเกลาจิตทุกเวลา
เมื่อกิเลสมันเบาบางมันหมดออกไปแล้ว มันขาวมันสะอาดแล้ว นั่นแหละจิตมันแจ้งมันส่องแสงขึ้น

ความส่องแสงขึ้นรู้เท่าสังขารตามความเป็นจริงของมันยังไงรู้ยังงั้น แล้วไม่ยึดถือ

จากอนาลโยวาท หลวงปู่ขาว อนาลโย หน้าที่ ๒๓๖

สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน
๖๑.๐๗.๐๗