พระพุทธเจ้าตรัสว่า ทุกข์ควรกำหนดรู้ สมุทัยควรกำหนดละ นิโรธควรทำให้แจ้ง มรรคควรเจริญให้มาก

สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปโป สัมมาวาจา สัมมากัมมันโต สัมมาอาชีโว สัมมาวายาโม สัมมาสติ สัมมาสมาธิ เรียกว่ามรรคทั้ง ๘

มรรคทั้ง ๘ ข้อสุดท้ายคือสมาธิ
สมาธิจะเป็นตัวแปรที่จะทำให้มรรคต่าง ๆ นั้นเกิดขึ้น
จะเป็นอริยสัจก็ต้องไปจากสมาธิ
จะมีจิตใจที่ต้องการอยากจะเห็นทุกข์ทั้งปวงว่าสิ่งต่าง ๆ ทั้งหลายที่เกิดมาแล้วก็ดับไปนั้นก็เกิดขึ้นมาได้จากสมาธิ หรือสัมมาวายาโมทำความเพียรให้ชอบ อย่างนี้ก็มาจากสมาธิ

เพราะฉะนั้นสมาธิจึงถือว่าเราได้ย่นหนทางคือเราได้เข้ามรรค ๘ แล้ว เราได้มาปฏิบัติมรรค ๘ แล้ว

ผู้ที่ทำสมาธินี่เรียกว่าเป็นอัจฉริยะ
อัจฉริยะแปลว่าเป็นสิ่งที่เหนือคาดหมาย เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์เป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมาย
เพราะฉะนั้นผู้ที่ทำสมาธิจึงอยู่เหนือความคาดหมายว่าทำไมจึงสามารถทำสมาธิได้
แท้ที่จริงนั้นสมาธิก็เป็นสิ่งที่ไม่ยาก

มนุษย์เรานี่มันมีความพร้อม มีความพร้อมทุกอย่างที่สามารถจะทำอะไรก็ได้ มีความอัศจรรย์อยู่แล้ว แต่เมื่อเวลาที่ทำสมาธิให้พัฒนาสมาธิให้เกิดขึ้น ก็ยิ่งเกิดความอัศจรรย์มากยิ่งขึ้น

จากหนังสือ ธรรมะรุ่งอรุณ เล่มแรก หน้าที่ ๒๔๒
พระธรรมมงคลญาณ (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน
๖๑.๐๔.๒๙