เราทำสมาธินี่ก็เป็นการผลิตพลังจิต
ใครต้องการพลังจิตก็ต้องมาทำสมาธิ ถ้าไม่ทำสมาธิแล้วพลังจิตก็ไม่เกิด

เราจะรู้ได้ว่าพลังจิตช่วยเราได้แค่ไหน ก็ในยามเมื่อเราเกิดวิกฤตการณ์ชีวิตขึ้นมาอย่างนี้เราก็แก้ไขด้วยพลังจิต

พลังจิตจะผ่อนหนักเป็นเบา หรือพลังจิตจะสามารถนำชัยชนะมาให้แก่ตัวของเราได้
ในการที่ทำให้ชนะนั้นหมายความว่าเราได้สร้างกุศล
การสร้างกุศลนั้นเป็นการที่เราทำในการสร้างสรรค์ให้แก่ชีวิตของเรา
การสร้างอกุศลหรือเรียกว่าบาปนั้นมันเป็นเรื่องของ การทำให้เกิดความทุกข์ร้อน

เพราะว่าบาปถ้าหากว่าใครทำลงไปแล้วนี่มันจะต้องตามสนองเรา
บุญก็เช่นเดียวกัน เราทำลงไปแล้วก็ตามสนองเรา
สนองให้เรานี่ได้รับคุณงามความดีต่าง ๆ
คุณงามความดีต่าง ๆ นั้นเขาเรียกว่าการสร้างสรรค์ ไม่ว่าเราจะทำอะไรที่มันเป็นการสร้างสรรค์ให้คนได้รับความสุข บุคคลอื่นได้รับความสุข เขาถือว่าเป็นการทำบุญ

การทำอะไรที่ทำลงไปแล้วนั้นสร้างความทุกข์ให้แก่ตัวเองด้วย แล้วก็สร้างความทุกข์ให้แก่บุคคลผู้อื่นด้วย อย่างนั้นเขาเรียกว่าการสร้างบาป
การสร้างบาปนั้นมันเป็นของง่าย ท่านกล่าวว่าการสร้างบาปเหมือนกลิ้งครกลงภูเขา ไม่ต้องออกเรี่ยวออกแรงมันก็ลงไปเอง

แต่ถ้าหากว่าทำบุญนี้ท่านเปรียบเหมือนกันกับว่ากลิ้งครกขึ้นภูเขา มันต้องออกแรงหน่อย ถ้าไม่ออกแรงแล้วครกมันก็ขึ้นไปไม่ได้

เพราะฉะนั้นการสร้างความดีมันจึงมีมารผจญต่าง ๆ นานัปการ
เราจะทำบุญทั้งทีมันก็มีคนขัดขวาง เราจะทำความดีทั้งทีก็มีคนขัดขวาง เราจะสร้างสิ่งต่าง ๆ ให้มันเป็นประโยชน์แก่ตนและบุคคลอื่นมันก็มีสิ่งกีดขวาง อย่างนี้

สิ่งกีดขวางเหล่านั้นถ้าเรามีใจอ่อน ๆ หรือเรียกว่าใจไม่เข้มแข็งมันก็ฝ่าฟันอุปสรรคนี้ไปไม่ได้ แต่เพราะว่าใจของเรานี้มีความเข้มแข็งเราฝ่าฟันอุปสรรคได้

จากหนังสือ ธรรมะรุ่งอรุณ ๒ หน้าที่ ๑๘๖
พระธรรมมงคลญาณ (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน

๖๑.๐๑.๑๘