ทำไมเราถึงต้องทำสมาธิ
ทำไมเราถึงต้องทำสมาธิ
เพราะว่าเป็นหนทางที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้ตั้งแต่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ครั้งแรก
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ครั้งแรกนั้น พระองค์ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วพระองค์ก็เทศนา เรียกว่าปฐมเทศนา เทศนากัณฑ์แรกที่พระองค์ได้เทศน์
เมื่อพระองค์เทศน์กัณฑ์แรกนั้นพระองค์ได้พบความผิดและความถูก
ถ้าหากตึงเกินไปก็ผิด หย่อนเกินไปก็ผิด
ถ้าหากเดินสายกลางได้ก็เรียกว่าหนทางที่ถูกต้อง
พระองค์ได้ตรัสอย่างนั้นในปฐมเทศนา ในหนทางกลางนั้นพระองค์ก็ได้ยืนยันมรรคทั้ง ๘
มรรคทั้ง ๘ ก็มีสัมมาทิฐิ ความเห็นชอบ
สัมมาสังกัปโป การดำริชอบ
สัมมาวาจา ก็เจรจาชอบ
สัมมากัมมันโต ก็การงานชอบ
สัมมาอาชีโว ก็เลี้ยงชีวิตชอบ
สัมมาวายาโม ก็มีความเพียรชอบ
สัมมาสติ ก็มีสติชอบ
สัมมาสมาธิ ก็มีสมาธิชอบ
นี่เรียกว่าเป็นหนทางกลางมี ๘ ประการ ใน ๘ ประการนี้มีสัมมาสมาธิเป็นอันดับสุดท้าย
สัมมาสมาธิจึงเป็นข้อที่มีความสำคัญที่ว่าเมื่อมีสมาธิแล้วมรรคทั้ง ๗ นั้นจะเกิดขึ้นมาได้
ถ้าขาดสมาธิแล้วนี่ไม่สามารถจะเกิดขึ้นมาได้ในมรรคทั้ง ๗
เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าจึงตรัสสัมมาสมาธิ สมาธิที่เรียกว่าเดินสายกลาง
การเดินสายกลางนั้นก็ไม่ตึงเกินไปแล้วก็ไม่หย่อนเกินไป
ตึงเกินไปนั้นก็คือทำสมาธิโดยที่ไม่ลืมหูลืมตา ไม่มีสติ เป็นอยู่ในความว่างมากเกินไปมันก็ทำให้เกิดเพ้อฝัน ทำให้เกิดเสียสติ
ถ้าขี้เกียจเกินไปจิตมันก็ยังไม่สงบ ไม่รวม มันก็ใช้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นจึงเอาพอดี
หลวงพ่อจึงมาดูพิจารณาอย่างนี้แล้วจึงได้เขียนหลักสูตรขึ้นเรียกว่าครูสมาธิ มีอยู่ ๓ เล่ม เป็นมาตรฐานในการที่จะดำเนินการ
ดำเนินจิตไปตั้งแต่เบื้องต้น ท่ามกลาง และที่สุด
แล้วก็วางรากฐานการปฏิบัติไว้ว่าให้เดินจงกรม ๓๐ นาที นั่งสมาธิ ๓๐ นาที ใครอยากจะทำสักวันนึง ๒ ครั้ง ๓ ครั้งก็ได้ คือครั้งละ ๑ ชั่วโมงก็ถือว่าเป็นหนทางกลางที่พอดีแล้ว ไม่ใช่น้อยแล้วก็ไม่ใช่มาก ก็สามารถทำให้เกิดผลได้
เมื่อหลวงพ่อได้เขียนตำรานี้สำเร็จแล้ว ก็ได้มาตั้งสถาบันพลังจิตตานุภาพ เพื่อที่จะให้พวกเราได้พากันเรียน
แล้วพวกเราก็ได้พากันเข้ามาเรียน ก็ประสบผลสำเร็จ ได้รับความเย็นอกเย็นใจ ได้รับความซาบซึ้ง ได้รับความรู้ ได้รับความเข้าใจ
ไม่ว่าบุคคลผู้นั้นจะเป็นฆราวาสหรือเป็นพระ หรือว่าเป็นเด็ก หรือว่าเป็นผู้ใหญ่ ก็สามารถทำได้
จากหนังสือ ธรรมะรุ่งอรุณ ๒ หน้าที่ ๑๒๗
พระธรรมมงคลญาณ (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)
สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน
๖๑.๐๑.๐๔
ใส่ความเห็น