เตือนฝากเงินในบริษัทเงินทุน คิดให้ดี ดูให้รอบคอบ

ปัจจุบันแม้จะมีการตั้งสถาบันคุ้มครองเงินฝากจากรัฐบาลก็ตาม แต่การคุ้มครองต่อไปในปี63 ก็จะคุ้มครองเพียงแค่ 1 ล้านบาท ทำให้บริษัทเงินทุนบางแห่ง ใช้จุดนี้ไปโฆษณาให้ลูกค้าหลงผิดคิดว่าเงินที่มาลงทุนในบริษัทเงินทุนแห่งนั้นได้รับการคุ้มครองเงินฝากทั้งหมดที่ลงทุนไว้

เช่น นำเงินไปลงทุน สามล้าน ระยะเวลา สามปี หากเกิดเหตุไม่ชอบกล บริษัทเงินทุนนั้นเจ๊งไป ผู้ฝากก็จะได้เงินจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากเพียงล้านเดียว ส่วนอีกสองล้านก็สูญเสียไป

ในการพิจารณาว่าจะฝากเงินลงทุนกับที่ไหนพึงดูให้รอบคอบ ขั้นต้นต้องดูประวัติของผู้บริหารเป็นผู้มีความเหมาะสม ดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดี หรือไม่ 2.ต้องดูประวัติการดำเนินกิจการโดยดูจากงบดุล ว่าบริษัทเงินทุนนั้นมาจากที่ไหน มาจากบริษัทแม่ที่มีชื่อเสียงทางสังคมแย่ๆหรือไม่

3. การบริหารกิจการที่ผ่านมาเป็นอย่างไร งบกำไรกับงบการลงทุน การบริหาร การกู้เงิน มีอย่างไร โดยเฉพาะบริษัทเงินทุนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์มีการระดมทุนเพิ่มหุ้นนำออกขายหุ้นบ่อยหรือจำนวนเท่าใด

อย่าฟังแต่ดอกเบี้ยที่บริษัทเงินทุนเหล่านั้นเสนอมาให้ ยิ่งบริษัทเงินทุนที่มีเส้นสายใหญ่ๆต้องระวังเป็นที่สุด เพราะไม่รู้ว่ามีการฟอกเงินหรือนำเงินไปใช้ในทางถูกต้องหรือไม่

พูดง่ายๆคือ ต้องดูความมั่นคงของบริษัทเงินทุนเหล่านั้นและมองดูการเข้าถึงข้อมูล เข้าถึงได้ง่าย อีกทั้งชื่อเสียงในการทำงานต่อความรับผิดชอบในสังคม มาเป็นจุดให้เลือกที่จะลงทุนนั่นเอง

เมื่อพูดถึงความรับผิดชอบทางสังคม เมื่อปีก่อนมีข่าวชายคนหนึ่งบุกทำเนียบร้องนายกรัฐมนตรีเพื่อจะฆ่าตัวตายประชดเจ้าหนี้บริษัทเงินทุน พาวเวอร์ชื่อดังรายหนึ่ง โดยชายคนนั้นได้เปิดเผยถึงความเลวร้ายในการประกอบธุรกิจของบริษัทนั้น ให้ทีมงานรับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาลได้ทราบ ฃึ่งต่อมารัฐให้การช่วยเหลือแก้ปัญหา แต่ข่าวไม่เปิดเผยว่าบริษัทเงินทุนนั้นจะยินยอมหรือไม่อย่างไร