มารใน มารนอก
ที่พวกเราจะก้าวข้ามให้ได้ก็คือว่าไอ้สิ่งที่มันเป็นมารใน
มารนี่มันจะมีอยู่ ๒ มาร
มารนอกนั่นมันนินทาสรรเสริญอะไรต่าง ๆ
มารในจิตของเรานี่ตัวการใหญ่ เพราะมันเกิดเอง อันนี้เขาเรียกว่าไส้เป็นหนอน
ไส้เป็นหนอน ก็หมายความว่าเราคิดเองไม่ต้องมีมารที่ไหน เราเป็นมารตัวเราเอง
เราบอกว่าเรามีอิสระใครจะมาบังคับเราก็ไม่ได้ ฉันจะนอนก็เรื่องของฉัน ฉันจะตายมันก็เรื่องของฉัน ฉันจะไปนรกก็เรื่องของฉัน
นี่ไอ้เจ้ามารตัวนี้มันเกิดขึ้นในจิตใจเอง
ไอ้ตัวนี้ยิ่งสำคัญใหญ่เพราะมันไม่อยู่ที่ไหนมันอยู่ที่ใจตลอด
แต่ตรงกันข้ามถ้าหากว่าเรามีคุณธรรมแล้ว คุณงามความดีก็จะปรากฏขึ้นในใจของเรา
ใจของเราก็ชักชวนเราเองว่าเวลานี้ได้เวลาทำสมาธิแล้วนะ เวลานี้เป็นเวลาที่เราจะสวดมนต์แล้วนะ
อย่างนี้นั่นเรียกว่าเป็นสติที่เราระลึกได้ว่าเราเกิดมาเป็นมนุษย์แล้วเราก็ได้รับความดีต่าง ๆ มากมาย สมดั่งที่เราได้เป็นมนุษย์มาจนกระทั่งถึงซึ่งบัดนี้
เมื่อความดีต่าง ๆ ได้ถูกสะสมแล้วทีนี้มันก็บวกบวกเรื่อย
บวกขึ้นไปเรื่อย บวกแล้วนี่มันไม่หาย
บุญกุศลมันจะติดตนตามตัวของเราอยู่ตลอด ไม่มีการเสื่อมสลายทรุดหายไปไหน ปรากฏอยู่ในตัวของเรานี่แหละที่เรียกว่าเป็นมหากุศล
เพราะฉะนั้นท่านทั้งหลายจงจำไว้เถิดว่าเรานี่ได้สร้างความดีแล้ว
จงภาคภูมิใจว่าเราได้สร้างความดีแล้ว
ความดีก็จะไปเป็นเกราะเป็นที่พึ่งให้แก่เราด้วยประการทั้งปวง
จากหนังสือ ธรรมะรุ่งอรุณ ๔ หน้าที่ ๑๗๓
พระธรรมมงคลญาณ (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)
สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน
สุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา
๖๐.๐๘.๑๓
ใส่ความเห็น