นายกฯใช้ม44 ยุติศาลทหารให้คดีมั่นคงกลับใช้ศาลยุติธรรมแต่วันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 55/2559 เรื่อง การดําเนินการเกี่ยวกับคดีบางประเภทที่อยู่ในอํานาจศาลทหาร ตามที่มีประกาศกองทัพบกและประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติให้ใช้กฎอัยการศึก ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 และต่อมามีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กําหนดให้การกระทําความผิดบางประเภทที่เกิดขึ้นในราชอาณาจักรและในระหว่างการประกาศใช้ กฎอัยการศึกดังกล่าว อยู่ในอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีของศาลทหาร นั้น เมื่อได้ดําเนินการดังกล่าว มาแล้วระยะหนึ่ง ปรากฏว่าประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมืออย่างดีในการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ความจําเป็นที่จะต้องใช้มาตรการควบคุมสถานการณ์และรักษาความสงบแห่งชาติ ตามกฎอัยการศึกจึงควรผ่อนคลายลง ประกอบกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณาเห็นว่า ในช่วงเวลานั้น อยู่ระหว่างการจัดทํารัฐธรรมนูญ ซึ่งควรส่งเสริมให้ประชาชนใช้สิทธิเสรีภาพ ให้กว้างขวาง จึงได้มีประกาศพระบรมราชโองการ เมื่อวันที่ 1 เมษายน พุทธศักราช 2558 ให้เลิกใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร แต่ไม่กระทบต่อประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางพื้นที่ที่มีผลใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่ 19 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 ส่วนการกระทําความผิดบางประเภทตามประกาศ คณะรักษาความสงบแห่งชาติยังคงอยู่ในอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีของศาลทหารต่อไป
โดยที่บัดนี้ปรากฏว่าสถานการณ์บ้านเมืองในรอบสองปีที่ผ่านมามีความสงบเรียบร้อยเป็นลําดับ ประชาชนต่างมีเจตนารมณ์และให้ความร่วมมือที่ดีในการนําประเทศไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน การปฏิรูปประเทศตามขั้นตอน และการสร้างความสามัคคีปรองดองที่ถูกต้องเป็นธรรม ดังเห็นได้จากกระบวนการลงประชามติ ที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้รับความเห็นชอบจากประชาชนด้วยมติท่วมท้น จึงสมควรผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ลงอีก เพื่อที่ทุกฝ่ายจะได้ใช้สิทธิ ปฏิบัติหน้าที่ของตน และได้รับความคุ้มครองตามกลไกของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งกําลังจะประกาศใช้ในเร็ววัน ตลอดจน ตามหลักนิติธรรมและหลักสิทธิมนุษยชน
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคาสั่ง ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 บรรดาการกระทําความผิดตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 37/2557 เรื่อง ความผิดที่อยู่ในอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีของศาลทหาร ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ฉบับที่ 38/2557 เรื่อง คดีที่ประกอบด้วยการกระทําหลายอย่างเกี่ยวโยงกันให้อยู่ในอํานาจของศาลทหาร และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 50/2557 เรื่อง ให้ศาลทหารมีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด ที่ใช้เฉพาะแต่การสงคราม ซึ่งได้กระทําตั้งแต่ วันที่คําสั่งนี้ใช้บังคับ ให้อยู่ในอํานาจการพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม
บรรดาการกระทําความผิดที่อยู่ในอํานาจการพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรมตามวรรคหนึ่งไม่หมายความรวมถึงการกระทําความผิดที่กฎหมายว่าด้วยธรรมนูญศาลทหารบัญญัติให้เป็นอํานาจ พิจารณาพิพากษาของศาลทหาร โดยให้การกระทําความผิดดังกล่าวยังคงอยู่ในอํานาจการพิจารณา พิพากษาของศาลทหารต่อไป
ข้อ 2 ให้เจ้าพนักงานตามคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2558
เรื่อง การรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ และคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 13/2559 เรื่อง การป้องกันและปราบปรามการกระทําความผิดบางประการที่เป็นภยันตรายต่อความสงบเรียบร้อยหรือบ่อนทําลายระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ยังคงมีอํานาจหน้าที่ตามคําสั่งดังกล่าวต่อไป
ข้อ 3 ในกรณีเห็นสมควร ให้นายกรัฐมนตรีเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคําสั่งนี้ได้
ข้อ 4 คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ 12 กันยายน พุทธศักราช 2559
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ใส่ความเห็น