ธปท.ประกาศพร้อมใช้ พร้อมเพย์ ก.ค นี้ทุกธนาคาร
ธปท. ประกาศพร้อมใช้ พร้อมเพย์ กำหนดเลขบัตรประชาชนหรือหมายเลขโทรศัพท์แทนเลขบัญชีเงินฝาก ได้ตั้งแต่กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป
นางทองอุไร ลิ้มปิติ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงข่าว บริการโอนเงินและรับโอนเงินแบบใหม่ “พร้อมเพย์ – PromptPay” ซึ่งเป็นบริการที่ภาคธนาคารร่วมมือกันพัฒนาขึ้น เพื่อสนับสนุนโครงการระบบการชาระเงินแบบ Any ID ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบ การชาระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติของรัฐบาล
พร้อมเพย์เป็นบริการที่จะช่วยให้ประชาชนและภาคธุรกิจสามารถโอนเงินได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากขึ้น โดยใช้หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่และ/หรือเลขประจาตัวประชาชนแทนการระบุเลขที่บัญชีเงินฝากของผู้รับเงิน ทั้งนี้ในระยะแรกจะเปิดให้บริการโอนเงินระหว่างบุคคลทั่วไปก่อนและสาหรับนิติบุคคลจะเปิดให้บริการในช่วงต่อไป และในอนาคตหน่วยงานภาครัฐจะสามารถโอนเงินสวัสดิการ เงินช่วยเหลือ และเงินคืนภาษีให้กับประชาชนผ่านบริการ พร้อมเพย์ด้วย
หากสนใจใช้บริการพร้อมเพย์ ผู้ใช้บริการต้องลงทะเบียนเพื่อผูกบัญชีเงินฝากธนาคาร กับหมายเลข โทรศพั ท์เคลื่อนที่ และ/หรือเลขประจาตัวประชาชนที่ต้องการ โดยเลือกบัญชีเงินฝากธนาคารที่ต้องการใช้เป็นบัญชี ในการรับเงิน และแจ้งลงทะเบียนกับธนาคารผ่านช่องทางที่ธนาคารแต่ละแห่งเตรียมไว้ให้บริการ เช่น เอทีเอ็ม, Internet Banking, Mobile Banking หรือที่สาขาธนาคาร และจัดเตรียมเอกสารประกอบการลงทะเบียนตามที่ธนาคาร กาหนด เช่น สมุดบัญชีหรือเลขที่บัญชีเงินฝากธนาคาร บัตรประจาตัวประชาชน โทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ต้องการลงทะเบียน
หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือเลขประจาตัวประชาชนหนึ่งหมายเลขจะสามารถใช้ผูกหรือจับคู่กับบัญชีเงินฝาก ปลายทางได้หนึ่งบัญชี และประชาชนสามารถยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงการผูกบัญชีได้ตลอดเวลา โดยปฏิบัติตามขั้นตอนที่ ธนาคารแต่ละแห่งกาหนด ทั้งนี้ ธปท. ยึดหลักในการให้บริการของธนาคารโดยคานึงถึงสิทธิของประชาชนที่จะได้รับข้อมูล อย่างครบถ้วน สามารถเปลี่ยนแปลงยกเลิกการผูกบัญชีได้ง่าย และสามารถเลือกใช้บริการได้อย่างอิสระ
ระบบกลางของบรกิ ารพร้อมเพยจ์ ะพร้อมให้บริการลงทะเบียนสาหรับทุกธนาคารได้ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2559 เป็นต้นไป อย่างไรก็ดี ธนาคารที่มีความพร้อมสามารถเปิดให้ลงทะเบียนก่อนกาหนดได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2559
บริการพร้อมเพยถ์ ือเป็นก้าวสาคัญในการพัฒนาบริการชาระเงินของประเทศ ซึ่งจะช่วยลดการใช้เงินสด เพิ่มความรวดเร็ว ถูกต้อง และสามารถตรวจสอบรายการย้อนหลังได้ และเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนปรับเปลี่ยนมาใช้ e-Payment ในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น เพื่อลดต้นทุนของระบบการชาระเงินโดยรวมและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของ ประเทศ
ใส่ความเห็น