ลูกหนี้ธอส.ข้องใจ”ฉัตรชัย ศิริไล “บริหารงานได้รางวัลมากมายแต่ทิ้งปัญหา”ลูกหนี้”คาเก้าอี้ก่อนสบัดก้นลาออกไปธกส.

เป็นเรื่องที่เลวร้ายต่อการบริหารงานองค์กรรัฐขนาดใหญ่ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่มีนาย ฉัตรชัย ศิริไล ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ โดยลูกหนี้รายหนึ่งเล่าว่า ตนจ่ายเงิน”ชำระหนี้ให้ธนาคารเสร็จสิ้นลงแล้วแต่ธนาคารไม่ยอมให้โฉนด” ตนจึงร้องทุกข์ต่อนาย ฉัตรชัย ศิริไล แต่นายฉัตรชัย เพิกเฉยไม่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และกรอบจรรยาบรรณของผู้บริหารที่กำหนดไว้ โดยปล่อยให้เรื่องไม่มีการแก้ไข อ้างแต่ว่าถ้าอยากได้โฉนดจะให้ตนชำระเงินเพิ่มอีกสองเท่าจากที่ได้จ่ายไปแล้ว ตนจึงไม่ยอม ผ่านมาเป็นเวลา หกปีแล้ว ธนาคารก็ใช้ศาลมาเป็นเกราะกำบังใช้สิทธิไม่สุจริต ขับไล่ออกหมายจับตนให้ออกจากทรัพย์ที่ตนชำระหนี้ไปหมดแล้ว

ตนจึงข้องใจมากว่า นาย ฉัตรชัย บริหารงานได้รางวัลมากมายมาได้อย่างไรเมื่อการบริหารงานในส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับลูกค้าโดยตรงมีพฤติการณ์อย่างนี้ของจนท.ธนาคารทำไมไม่มีการตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวน นาย ฉัตรชัย กลับทำด้วยวิธีการส่งเรื่องตนไปให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์ตอบกลับมาตลอดว่าเรื่องที่ตนร้องทุกข์นี้นาย ฉัตรชัย ได้รับเรื่องแล้วหากตนต้องการทราบเรื่องขอให้ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร

นี่นะหรือผู้บริหารดีเด่น ขององค์กร 

ล่าสุดตนก็มีหนังสือถึงนาย ฉัตรชัย ให้เข้ามาแก้ปัญหาขอให้ส่งทรัพย์คืน มิฉะนั้นต้องมีการฟ้องร้องกันหลายคดีฃึ่งตนไม่อยากทำเช่นนั้น นาย ฉัตรชัย ก็ใช้วิธีเดิม แล้วสบัดก้นออกจากธนาคารนี้ไปอยู่ธนาคารเกษตรและสหกรณ์แทน

ตนเห็นว่าเป็นผู้บริหารเขาจ้างมาให้บริหารงานธนาคาร กรณีนี้เป็นการดำเนินการที่ผิดพลาดของพนง.ธนาคารแต่ปัดความผิดมาให้ตนรับผิดชอบแทน แทนที่ผู้บริหารจะแก้ไขปัญหากลับทอดทิ้งปัญหาเพราะถือว่ามีอำนาจใหญ่โตจะทำอะไรกับลูกหนี้ก็ได้หรือ 

ที่สำคัญคือคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ก็คงจะปกป้องในฐานที่ธนาคารเคยได้รับรางวัลจากปปช.จึงทิ้งเรื่องการสอบสวนนี้ จนเลยกำหนดระยะเวลาทำงานของปปช.มาสี่ปีแล้ว

 ( คดี 23255 30ส.ค 62)ทั้งที่เพียงแค่หยิบคู่มือการกำกับดูแลจริยธรรมและจรรยาบรรณของธนาคารอาคารสงเคราะห์มาอ่านก็จะเห็นชัดเจนว่า ข้อปฎิบัติต่อลูกค้าและประชาชนเป็นอย่างไร โดยเฉพาะจรรยาบรรณของผู้บริหารและผู้ปฎิบัติงานที่ต้องมีต่อลูกค้านั้นกำหนดไว้ชัดเจน

แต่ไม่มีการปฎิบัติ ทำให้ตนเสียหาย ต้องใช้ศาลมาเป็นที่พึ่งหรืออย่างไร ฃึ่งตนก็คิดว่าอำนาจของธนาคารใหญ่จนศาลอาจจะเป็นที่พึ่งไม่ได้จริง 

หรือจะต้องให้ตนแสดงอำนาจของประชาชนให้คนทั้งโลกรู้ว่าการกระทำของธนาคารนี้เลวร้ายอย่างไร