นายอำเภอแม่ฟ้าหลวงเตือนผู้ประกอบการโรงแรมคำสั่งคสช.ที่6|2562 ไม่ใช่คำสั่งที่ให้ผู้ประกอบการโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาตเปิดโรงแรมได้แต่เป็นคำสั่งที่เว้นโทษเรื่องการก่อสร้างไม่ถูกกฎหมายเท่านั้น

วีคลี่นิวส์ได้รับการร้องทุกข์จากผู้ประกอบการโรงแรม”คุ้มนายพลรีสอร์ท”ว่าตนได้รับหมายเรียกเป็นผู้ต้องหาจากที่ว่าการอำเภอแม่ฟ้าหลวงว่าประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยจดหมายฉบับนี้ถูกส่งมาเมื่อวันที่11ต.ค62 มาถึงตนในวันที่17ต.คโดยระบุให้ตนไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่21ต.ค62 ฃึ่งเป็นเวลากระชั้นชิดมากแต่ตนไม่สามารถไปได้จึงขอเลื่อนนัดออกไป

จากหมายเรียกดังกล่าวทำให้ตนข้องใจมากว่าเป็นการเลือกปฎิบัติประการหนึ่งหรือไม่และประการสองคำสั่งของคสช.ที่6|2562 เรื่องมาตรการส่งเสริมและพัฒนามาตรฐานการประกอบธุรกิจโรงแรมบางประเภทลงวันที่12 มิถุนายน62 นั้นมีผลอย่างไรต่อผู้ประกอบธุรกิจเปิดที่พักให้เช่าหรือโรงแรมที่ยังดำเนินการไม่ถูกต้องตามก.ม

ฃึ่งตามความเข้าใจของตนนั้นคือคำสั่งคสช.ฉบับดังกล่าวเป็นการแก้ปัญหาให้ผู้ประกอบการที่ยังดำเนินการไม่ถูกต้องตามก.มได้มีโอกาสแก้ไขให้ถูกต้องโดยเฉพาะเรื่องการก่อสร้างอาคารต้องดำเนินการให้ถูกต้องภายในวันที่18 ส.ค64 ระหว่างนี้คำสั่งคสช.ได้บรรเทาทุกข์ให้ผู้ประกอบการสามารถแก้ไขและเปิดกิจการต่อไปได้

ปรากฎว่าตนถูกหมายเรียกดังกล่าวเป็นผู้ต้องหาจากอำเภอแม่ฟ้าหลวงฃึ่งตนเห็นว่าไม่มีความเป็นธรรมและเลือกปฎิบัติจากนายอำเภอแม่ฟ้าหลวงฃึ่งก่อนหน้าได้พยายามขอเข้าพบเพื่ออธิบายความเป็นไปของกิจการตนแต่ได้รับการปฎิเสธด้วยถ้อยคำรุนแรงจากนายอำเภอทั้งที่นายอำเภอควรจะมีหน้าที่ทำนุบำรุงสุขให้ราษฎรไม่ใช่ใช้อำนาจมากดขี่หรือคิดไม่ดีต่อปชช.

ผู้ประกอบการโรงแรมรายนี้กล่าวต่อว่า  ตนประกอบธุรกิจที่พักให้เช่าบนดอยแม่สลองมาเป็นเวลากว่า20 ปีเดิมได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมจากนายทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายมีการเสียภาษีให้รัฐตามระเบียบตลอดมา

ฃึ่งก่อนหน้านั้นเจ้าของเดิมมีอาการป่วยไม่สามารถประกอบกิจการที่กำลังทรุดโทรมทั้งของอาคารและสิ่งของได้จึงได้สละสิทธิการครอบครองและรับเงินเพื่อให้ผู้ครอบครองรายใหม่เข้าดำเนินการปรับปรุงแต่ต่อมาผู้ประกอบการรายใหม่ก็ไม่สามารถทนสู้กับการบริหารและการปรับปรุงอาคารให้มีสภาพดีพร้อมรับลูกค้าต่อได้  จึงได้สละสิทธิการครอบครองนั้นมาให้ตน

ตนเข้าทำการกู้เงินทิ้งงานที่กทม.มายึดอาชีพการเกษตรและปรับปรุงอาคารด้วยความเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวมาโดยตลอดกว่ายี่สิบปีจนกิจการทั้งไร่ชาและที่พักได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานของรัฐให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คงความเป็นธรรมชาติเป็นเอกลักษณ์ของดอยแม่สลองจนมีชื่อเสียงกว้างไกลสามารถปักธงไทยบนแผ่นดินไทยได้ด้วยความมานะอดทนอย่างยากลำบาก

เจ้าของคุ้มนายพลรีสอร์ทกล่าวต่อว่า  เมื่อกิจการดีขึ้นมีชื่อเสียงดีแล้วปรากฎว่าเจ้าของเดิมที่ทิ้งร้างไปนานกว่าสิบปีกลับมาฟ้องร้องคดีและเรื่องลามมาถึงตนโดยฟ้องเรียกทรัพย์สินอาคารสิ่งก่อสร้างคืนคดีอยู่ในศาลขณะนี้

ตั้งแต่นั้นมีการดำเนินการทุกวิถีทางที่จะให้ตนออกจากพื้นที่มีการบุกเข้าทำร้ายตนและไร่ชาพร้อมข่มขู่ให้คนงานในรูปแบบต่างๆทำให้ตนต้องร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐเป็นที่ยากลำบากต่อการเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ต้องต่อสู้กับความไม่สุจริตในรูปแบบต่างๆมากมาย

โดยเฉพาะในการใช้อำนาจรัฐเลือกปฎิบัติกับตนเพียงแห่งเดียวกล่าวคือที่ดินของดอยแม่สลองทั้งหมดแต่เดิมเป็นที่ดินป่าสงวนและปัจจุบันเป็นที่ดินที่สปก.เข้ามาดูแลฃึ่งตนก็ประกอบอาชีพบนที่ดินทำกินอย่างสุจริตและเปิดเผยตลอดมา

แต่วันดีคืนดีตนถูกอำนาจรัฐโดยอดีตผู้ว่าราชการสั่งไม่ต่อใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมให้กับตนเจ้าสำนักเดียวขณะที่สำนักอื่นๆที่ได้รับใบอนุญาตอีกแปดแห่งยังคงต่อใบอนุญาตได้

ตนจึงร้องขอความเป็นธรรมจากศาลปกครองศาลปกครองสูงสุดตัดสินว่าที่ดินบนดอยแม่สลองฃึ่งเป็นที่ดินของรัฐเดิมเป็นที่ดินป่าสงวนนั้นไม่สามารถที่จะออกใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรมให้แก่ผู้ใดได้

แต่กลับกลายเป็นตนเจ้าสำนักเดียวที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตเมื่อตนสอบถามไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอและเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบได้รับคำตอบว่า  คนอื่นไม่ได้มีเรื่องฟ้องร้องร้องเรียนแต่ตนมีคดีกับเจ้าของเดิมจึงต้องถูกเพิกถอนใบอนุญาต

ตนคิดว่าไม่เป็นธรรมและตนถูกกลั่นแกล้งในเรื่องต่างๆมากมายไม่ใช่ว่าตนเป็นผู้มีอำนาจตนเป็นผู้หญิงที่ทำงานเลี้ยงชีพอย่างอดทนบนดอยแม่สลองที่ทั้งห่างไกลและลำบากแต่ตนเป็นนักสู้ไม่ยอมให้เกิดความไม่ถูกต้องตนยึดมั่นในความดีมีศีลธรรม

ล่าสุดตนก็ถูกกลั่นแกล้งกล่าวหาว่าตนเปิดโรงแรมโดยไม่มีใบอนุญาตทั้งนี้ตนเข้าใจว่าคำสั่งคสช.ฉบับดังกล่าวมีผลได้เข้าใจว่าสามารถดำเนินการต่อเพื่อให้โอกาสผู้ประกอบการได้ปรับปรุงแก้ไขและเวลายังอยู่อีกนานบนดอยแม่สลองอาจมีการเปลื่ยนแปลงตามนโยบายของรัฐได้ต่อไปแต่ขณะนี้ตนยังคงยึดตามที่คสช.ออกมาตรการนี้ไว้

หากนายอำเภอประสงค์จะดำเนินการกับผู้ประกอบการต้องไม่ใช่ทำกับตนแห่งเดียวต้องมาตรวจสอบให้ถูกต้องทั้งหมดไม่ใช่อ้างว่ามาตรวจตนเพราะมีคนร้องเรียน

นายอำเภอควรจะให้ความเป็นธรรมแก่ตนด้วย

วีคลี่นิวส์ได้รับคำร้องเรียนดังกล่าวจึงได้ไปตรวจสอบพบว่าบนดอยแม่สลองมีโรงแรมขนาดใหญ่เกิดขึ้นมากมายโดยไม่มีใบอนุญาตก่อสร้างเนื่องจากเป็นที่ดินของรัฐโอกาสที่หน่วยงานรัฐจะมองผ่านหรือไม่เห็นย่อมเป็นไปไม่ได้คำถามจึงว่าอาคารเหล่านั้นสร้างขึ้นมาได้อย่างไร

นอกจากนี้ผลการตรวจสอบพบว่ามีจำนวนโรงแรมที่พักถึง33 แห่งมีใบอนุญาตเพียง9 แห่งขออนุญาตไม่ใช่เป็นโรงแรม1 แห่งที่อำเภอออกให้เมื่อเร็วๆนี้ทั้งที่มีการก่อสร้างถึง30 ห้องแต่ขอใบอนุญาตไม่เป็นโรงแรมเพียง5ห้อง(ทั้งที่พรบ.โรงแรมระบุเพียงแค่4 ห้องเท่านั้น)

วีคลี่นิวส์ได้เข้าพบนายอำเภอแม่ฟ้าหลวงว่าที่รต.กรกฎประเสริฐวงษ์  ได้กล่าวอธิบายต่อกรณีข้อร้องทุกข์ของผู้ประกอบการคุ้มนายพลรีสอร์ทว่าเรื่องนี้เป็นคดีอยู่ในศาลของเจ้าของเดิมกับผู้ร้องทุกข์ตนปฎิบัติตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าทำไมนายอำเภอไม่เป็นคนกลางช่วยไกล่เกลี่ยปชช.

นายอำเภอแม่ฟ้าหลวงกล่าวตอบว่าตนไม่มีหน้าที่

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า  คำสั่งของคสช.ที่ให้ผู้ประกอบการโรงแรมที่พักแก้ไขและเปิดกิจการต่อไปถึงปี64 ได้จะไม่ครอบคลุมถึงผู้ร้องทุกข์หรือ

นายอำเภอแม่ฟ้าหลวง  กล่าวตอบว่า  คำสั่งคสช.ไม่ได้สั่งให้เปิดโรงแรมได้ แต่เป็นคำสั่งเรื่องอนุโลมการก่อสร้างที่ไม่เป็นไปตามพรบ.ควบคุมอาคารเท่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องใบอนุญาตฉะนั้นผู้ที่จะเปิดกิจการได้ต้องมาขอใบอนุญาตจากตนก่อน  คำสั่งของคสช.จึงไม่มีผลในเรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า  จริงหรือ นายอำเภอเข้าใจอย่างนี้จริงหรือ  ปชช.เข้าใจว่าคำสั่งของคสช.ให้ปรับปรุงอาคารที่ใช้เป็นโรงแรมที่พักให้ทำให้ถูกต้องก่อนปี64 ระหว่างนี้ให้เปิดดำเนินกิจการต่อไปได้

ว่าที่รต.กรกฎประเสริฐวงษ์  นายอำเภอแม่ฟ้าหลวง  กล่าวตอบว่า  ไม่ใช่นั่นเป็นเพียงเรื่องพรบ.ควบคุมอาคารเท่านั้นหากจะประกอบกิจการต้องมาขออนุญาตตามพรบ.โรงแรมมิฉะนั้นก็จะมีความผิด

ผู้สื่อข่าวจึงกล่าวต่อว่า  ถ้าเป็นเช่นนั้นตนจะไปถามท่านนายกรัฐมนตรีว่าออกคำสั่งเป็นดังที่ท่านว่าหรือไม่

นายอำเภอแม่ฟ้าหลวงกล่าวตอบว่า  จะไปถามท่านนายกฯทำไมต้องไปถามอธิบดีกรมการปกครองเพราะเป็นเรื่องของกรมการปกครอง

จากนั้นนายอำเภอแม่ฟ้าหลวงได้กล่าวว่าหากมีการนำข้อความที่ตนพูดไปบิดเบือนเป็นข้อความเท็จขอให้ผู้นั้นและครอบครัวจงประสบกรรมในสิ่งที่ได้ทำไว้พร้อมกับยกมือพนมขึ้น

ทำให้ผู้สื่อข่าววีคลี่นิวส์ต้องรีบยกมือพนมขึ้นกล่าวรับว่าสาธุ  เช่นกัน

ฃึ่งวีคลี่นิวส์จะได้ติดตามสอบถามไปยังอธิบดีกรมการปกครองต่อไปเร็วๆนี้