วีคลี่นิวส์ออนไลน์ เปิดเผยเงินจำนวนมหาศาลจากการที่ธนาคารออมสินร่วมมือกับสกสค.และ บริษัท ทิพยประกันภัย (มหาชน) จำกัด ปล่อยกู้ให้กับครูจำนวนกว่า900,000ราย ๆละประมาณ สามล้านบาท โดยมีเงื่อนไขว่าผู้กู้จะต้องทำประกันชีวิตค้ำประกันสินเชื่อ เมื่อคิดเป็นเงินประกันรายละประมาณ image130,000บาท คุ้มครอง 10ปี ต่อมาแก้ไขเป็น 9 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับการประกันภัย ไม่ใช่ประกันชีวิตตามนโยบายของออมสิน

ยอดเบี้ยประกันภัยนี้กลายเป็นขนมหวานที่มีมูลค่ามหาศาลเมื่อคำนวณคร่าวๆบริษัท ทิพยประกันภัยรับเบี้ยไปเนอะๆประมาณ 117,000,000,000บาท เมื่อคิดค่าคอมมิชั่นในการขาย 40% คนขายประกันรายนี้จะรับเงินถึง46,800ล้านบาท เมื่อแบ่งให้ออมสินและสกสค.13%จึงเป็นเรื่องจิ๊บๆ ขณะที่เบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อณปัจจุบันที่ธนาคารกรุงไทยเสนอลูกค้าเงินกู้สี่ล้านบาทอยู่ที่56000บาทเท่านั้น
จึงเห็นว่าบริษัท ทิพยประกันภัย เรียกค่าเบี้ยประกันสูงเกินเหตุ ทำให้ครูต้องจ่ายเงินสูงเกินจริง
ขณะที่พนักงานออมสิน ผู้บริหาร ออมสินและ สกสค. ทิพยประกันภัย กลายเป็นเศรษฐีในทันที
วีคลี่นิวส์ได้รับเอกสารยืนยันจากผู้บริหารระดับสูงของออมสินว่า มีการแบ่งไปยังสาขา 3% เขต 1% ภาค 1% จริง ทำกันมานานก่อนที่โครงการช.พ.ค5 จะเกิดแต่ไม่มีใครทราบเรื่องตัวเลข เพราะปิดบังไว้เป็นเอกสารลับ
ขณะเดียวกันหลังจากครูร้องเรียนเรื่องทำประกันชีวิตแต่ได้ประกันภัยกลุ่มกลับไปแทน ธนาคารออมสินและทิพยประกันภัย จึงร่วมมือร่วมใจกันจัดตั้งบริษัท ทิพยประกันชีวิต ขึ้น ด้วยกรรมวิธีแยบยล
งานนี้มีผู้บริหารสองคนของธนาคารออมสินดำเนินการและระดับบิ๊กเป็นเสธ
มีนอมินีหลายคนร่วมแสดง ฃึ่งวีคลี่นิวส์ทราบมาแล้วหนึ่งคนชื่อ พรเทพ เป็นคนธรรมดาไม่มีรายได้แต่สามารถฃื้อหุ้นประกันชีวิตได้ถึงสามสิบกว่าล้าน ฃึ่งวีคลี่นิวส์จะตามไปสัมภาษณ์ถึงเงินก้อนนั้น ท่านได้แต่ใดมา

อย่างไรก็ตามนอกจากที่พนักงานออมสินจะร่วมกันรับเงินส่งเสริมการขายนี้แล้ว พนักงานออมสินยังร่วมมือกับฝ่ายบริหารปล่อยกู้ผิดประเภทหลายเรื่อง ฃึ่งธปท.ได้เข้าไปตรวจสอบอยู่ขณะนี้ว่ามีการผิดปกติอย่างใดหรือไม่