นี่เราเกิดมาเราเอาอะไรมาด้วย
ที่เราร่ำรวย รวยด้วยอะไร
บางคนมั่งมีศรีสุข เป็นคนไม่อดไม่อยาก เป็นคนไม่ทุกข์ไม่ยาก เป็นคนสวยคนงาม
บางคนอดคนอยาก คนทุกข์คนยาก ขี้ร้ายขี้เหร่ สังขารร่างกายพิกลพิการ
เพราะเหตุใด

คนเราคือกัน(เหมือนกัน) ธาตุสี่ ขันธ์ห้า อายตนะทั้งหกเท่ากัน
เพราะเหตุใดจึงได้เป็นอย่างนั้น มาพิจารณาดูซีพวกเรา

นี่หละ ขาดการกระทำมา เราไม่ได้สร้างคุณงามความดีหลายภพหลายชาติ จึงได้เกิดเป็นคนทุกข์คนจน

กาที่เราจะบำเพ็ญคุณงามความดีนี้ พระพุทธเจ้าท่านก็วางศาสนาไว้ชี้แจงแสดงไว้ ก็ไม่ใช่อื่นไกล

คนเราเกิดมาในโลกนี้ เราทั้งหลายก็มีความมุ่งมาดปรารถนาอยู่สามนัย
นัยหนึ่ง ต้องการวัตถุข้าวของเงินทองมาก ๆ พากันหาอยู่ทุกวันนี้
นัยสอง ต้องการรูปสวย ๆ งาม ๆ อายุยืนนาน ไม่มีโรคไม่มีภัย
นัยที่สาม ต้องการความเฉลียวฉลาด เกิดมาแล้วจึงได้พากันเล่าเรียนศึกษาทั้งในทั้งนอก
แต่หลายคนก็ทำไม่ได้สมความมุ่งมาดปรารถนา

พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ไว้แล้วว่า เพราะเหตุใด
ท่านพิจารณาแล้ว สัตว์ทั้งหลายไม่สมความปรารถนา คือขาดการกระทำ และขาดการปฏิบัติ
เพราะฉะนั้นท่านจึงได้วางศาสนานี้ไว้ ศาสนาที่ท่านวางไว้นี้ก็ไม่ได้วางที่อื่น วางที่ตัวของพวกเรา

ท่านบัญญัติธรรมท่านก็ไม่ได้บัญญัติที่อื่น
ขันธะบัญญัติ อายตนะบัญญัติ ธาตุบัญญัติ อินทรียะบัญญัติ บุคคลบัญญัติ แน่ะ
ท่านบัญญัติศาสนา บัญญัติธรรม ท่านบัญญัติตรงนี้ ไม่ได้บัญญัติที่อื่น

ทุกคนมีธาตุทั้งสี่ ขันธ์ทั้งห้า อายตนะทั้งหกด้วยกัน ทำไมจึงไม่คือ(เหมือน)กัน บางคนก็ต่ำ ดำ ขาว ก็มี บางคนก็ใหญ่ บางคนก็เล็ก ไม่คือกัน ไม่สม่ำเสมอ เพราะเหตุใด ?

เพราะเหตุอย่างนี้ คือต่างกันด้วยคุณธรรม คุณสมบัติ นี่หละเราขาดการกระทำ

ผู้มั่งมีศรีสุข ผู้ร่ำรวยสวยงามนั้น คือผู้ที่เขาได้บริจาค ได้สร้างคุณงามความดีไว้ มีทาน มีศีล มีภาวนานี้ไว้ คือว่าได้สร้างไว้ ได้ทำไว้ ได้บริจาคไว้ ได้สร้างสมไปแล้วหลายภพหลายชาติมา ไม่ใช่แต่ชาตินี้

ที่เรามาเกิดในชาตินี้ บางคนวัดก็ไม่เข้า พระเจ้าก็ไม่นบ วันศีลก็ไม่ละ วันพระก็ไม่ถือ ปิดการงานแล้วก็ไปเที่ยวเตร่สนุกสนาน ไม่ได้บำเพ็ญคุณงามความดี

ที่เราทั้งหลายมาอย่างนี้ เรียกว่ามาบำเพ็ญตน มาทำนุบำรุงตน ผลอานิสงส์นี้หละ เกิดมาเป็นคนไม่ทุกข์ ไม่จน ติดตนนำตัวไปหลายภพหลายชาติ นี่หละติดเป็นนิสัยมา
ผลอานิสงส์นี้หละทำให้บุคคลเป็นคนมั่งมีศรีสุข เป็นคนไม่ทุกข์ไม่จน เพราะเราได้ทำไว้แล้ว

อุปมาเหมือนกับชาวนา เขาได้ทำนาไว้แล้วเขาก็ไม่อด อยากได้ข้าวเต็มยุ้งฉางก็เต็ม
ถ้าไม่ได้ทำนา อยากได้ข้าวเต็มยุ้งเต็มฉางก็ไม่มี

จากหนังสือ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร โครงการหนังสือบูรพาจารย์ เล่มที่ ๑๑ หน้าที่ ๖๙๖

สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน
๖๑.๐๖.๒๒