แท้จริงแล้วธรรมะก็มีอยู่ในตัวของคนเรา

ใจของคนเรานี่เปรียบเหมือนกับห้องสมุด หรือเรียกว่าหอสมุด
ห้องสมุดที่เขาเรียกว่าไลบารี่ (Library)

เพราะอะไร
เพราะว่าใจของเรานี้เป็นที่เก็บ แล้วก็เป็นที่สะสม สารพัดนับเป็นร้อยเป็นพันปี
ใจของคนเรานี้จึงเรียกว่าเป็นวัตถุโบราณ
วัตถุโบราณที่มีค่าที่สุดก็คือใจของมนุษย์
เก็บเอาไว้ ต่างคนต่างเก็บ

พอเวลาที่เราทำสมาธินี่ถ้าเราสามารถสร้างพลังจิตให้แกร่งกล้าขึ้น เราสามารถที่จะเปิด คือเปิดห้องสมุด คือใจของเรานี้ได้รู้ว่าใจของเรานั้นมีอะไรบ้าง

ถ้าหากว่าเรามีพลังจิตพอเพียง เราสามารถเปิดได้ สุดแล้วแต่ว่าพลังจิตของเราจะมากน้อยแค่ไหน

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น พระองค์ได้เปิดไลบารี่ในพระทัยของพระองค์นั้น ก็ปรากฏว่าญาณได้เกิดแก่พระองค์ก็คือปุพเพนิวาสานุสติญาณ ญาณเป็นที่ระลึกชาติหนหลังได้
พระองค์ได้ระลึกชาตินับไม่ถ้วน ร้อยชาติ พันชาติ หมื่นชาติ ก็อยู่ที่ใจ พระองค์ได้ตรัสรู้ทางใจแล้วก็เปิดเผยออกมาว่าอันนี้คือปุพเพนุวาสานุสติญาณ
ตลอดจนกระทั่งพระองค์ได้จุตูปปาตญาณ คือญาณเป็นที่รู้จักจุติและอุบัติ หมายความว่าตายแล้วไปเกิดที่ไหน เกิดแล้วเกิดมาจากไหน อะไรอย่างนี้ มันก็อยู่ที่จิตใจของพระองค์
ตลอดจนกระทั่งในที่สุดนั้นน่ะพระองค์ก็กำจัดกิเลสทั้งหมด อาสวะ กามาสวะ ภวาสวะ อวิชชาสวะ ทำให้กิเลสหมดไป แล้วพระองค์ก็ได้ตรัสรู้ ก็ที่ใจของพระองค์อีกนั่นแหละ

เพราะฉะนั้นเวลาที่เราเห็นนิมิตต่าง ๆ เวลาเราทำสมาธิ ก็คือสิ่งที่เราได้สะสม ได้เก็บเอาไว้
ในใจของเรานี่ได้เก็บเอาไว้ เราเปิดเผยออกมาเราจะรู้ได้ด้วยตนเองว่าสิ่งนี้มันคืออะไร แล้วก็เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์มาก
เพราะว่าใจนี่เป็นวัตถุโบราณที่มีค่ามีราคา ถึงเรียกว่าเปิดเผย เรียกว่าเปิดความลับออกมา
เพราะความลับอยู่ในใจของเรานี่มีอยู่มากมาย

อย่างไรก็ตามในเมื่อเรามาพบพระพุทธศาสนา นับตั้งแต่เราเกิดมาจนกระทั่งมาถึงบัดนี้ เราได้สะสมคุณธรรมของพระพุทธศาสนาไว้ในจิตใจของเรานั้น มากมายพอสมควร

จากหนังสือ ธรรมะรุ่งอรุณ ๒ หน้าที่ ๒๘๔
พระธรรมมงคลญาณ (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน

๖๑.๐๑.๓๑