image

ที่สภาทนายความ ถนนพหลโยธิน นางสาว พัชร สงวนนามสกุล ได้เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจากสภาทนายความกรณีทนายความนายหนึ่งกล่าวหาว่าเธอฉ้อโกง ขณะที่ศาลนัดไต่สวน เธอได้แสดงหลักฐานอันเป็นเหตุให้ศาลไกล่เกลี่ย

แต่คู่ความตกลงกันไม่ได้ เธอจึงขอให้ศาลดำเนินการไต่สวน ปรากฎว่าทนายความผู้นี้กลับขอถอนฟ้องคดี เธอจึงขอค้านต่อศาล เนื่องจากเธอเห็นว่าเธอไม่ได้ฉ้อโกงแต่ทนายใช้เหตุนี้มาดำเนินคดีอาญาเพื่อให้เธอต้องโทษ

แต่ศาลไม่รับคำค้าน ศาลอนุญาตให้ทนายผู้นั้นถอนฟ้องออกจากสารบบไป

เมื่อเธอปรึกษากรรมการมรรยาททนายความนายหนึ่ง พบว่าเป็นกรณีผิดมรรยาททนายความจึงแนะนำให้เธอร้องขอความเป็นธรรมจากสภาทนายความ ฃึ่งเธอได้นำเอกสารจำนวน ถึง 6 ชุด เพื่อไปให้สภาทนายความได้พิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับเรื่องที่เธอยื่นขอความเป็นธรรมไป

จากนั้นเธอได้พูดคุยปรึกษากับทนายความอาสาที่มานั่งให้คำปรึกษาประชาชนอยู่ที่สภาทนายความ โดยเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังและถามว่าเธอผิดไหม

ทนายผู้นั้นตอบว่า ห้าสิบห้าสิบ ยังไม่เห็นหลักฐาน เธอจึงบอกว่าวันนี้มายื่นขอความเป็นธรรมจากสภาทนายความ เรื่องมรรยาททนายความ

ทนายที่ให้คำปรึกษาพูดว่า ระวังอาจโดนทนายความฟ้องกลับในฐานะหมิ่นประมาท

ตนคิดไม่ถึงว่าจะได้รับคำเตือนให้ตนกลัวมากขนาดนั้น

ตนจึงเอามาเล่าให้ทนายอีกคนฟังผ่านเฟฃ ทนายคนในเฟฃบอกว่า ให้ตนทำตามกฎหมาย แต่การที่ตนมาบอกว่าเจอทนายไม่ดี เป็นการใช้ความรู้สึกส่วนตัว มากกว่าใช้กฎหมาย

ตนจึงขำมากเพราะตนทำตามกฎหมายแล้วแต่ตนมาเจอคำขู่ คำต่อว่าอย่างนี้มันน่าขำหรือไม่ เพราะตนไม่กลัวใครอยู่แล้ว แต่มันขำที่ว่า หนีเสือปะจรเข้เสียละมั้ง

ความจริงตนต้องการที่จะพิสูจน์ว่าสภาทนายความเป็นที่พึ่งของประชาชนได้หรือไม่ เพราะตนเคยมาร้องเกี่ยวกับเรื่องมรรยาททนายความ ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน ทนายคนที่ตนร้องยินยอมตกลงใช้ค่าเสียหายให้ แต่กลับปรากฎว่าผลการสอบของสภาทนายความบอกว่า คำร้องของตนขาดอายุความไป 1 วัน ทั้งที่ตนนับอายุความจากวันที่ตนได้รับคำพิพากษา แต่คณะกรรมการมรรยาททนายความนับจากวันที่ตนไปยื่นขอคัดถ่ายคำพิพากษา

ครั้งนี้เป็นเพราะตนเชื่อมั่นในสภาทนายความชุดใหม่ ตนจึงอยากไปพิสูจน์ว่า สภาทนายความชุดใหม่จะเป็นที่พึ่งของประชาชนหรือช่วยพวกพ้องเดียวกัน ตนจึงเดินทางไปเยี่ยมเยียนที่ตั้งใหม่ของสภาทนายความพร้อมกันไปด้วย

ก็พบว่า การบริการประชาชน เป็นไปอย่างดี แม้สุ่มเสียงในการบริการจะแข็งกร้าวก็ตามแต่ยังมีความไพเราะของคำว่า ” ค่ะ” อยู่ตลอดเวลา

ขณะเดียวกันเมื่อตนเห็นทนายความประกาศตนช่วยเหลือประชาชนด้วยการให้คำปรึกษาทางคดีความผ่านทางเฟฃบุ้ค ตนได้ทดสอบว่าเจอทนายไม่ดี เจอทนายขู่ มา ตนขำมากในที่สุดแล้วตนได้คำตอบว่า เอาความรู้สึกส่วนตัวมาว่า

นอกจากนี้ตนยิ่งขำมากขึ้นไปอีกเมื่อตนเจอทนายความชื่อดังที่ประกาศตัวในเฟฃว่าช่วยเหลือคนจน โดยอาชีพของตนก็ชอบหาความจริงอยู่แล้ว ตนจึงเอาคนจนไปนั่งเล่าเรื่องคดีให้ฟัง

สิ่งที่ตนนั่งฟังอยู่ด้วยเป็นชั่วโมงได้ใจความว่า ขั้นต้นต้องจ่ายเงินเป็นค่าเดินทางทำคดีก่อนครั้งละ50000บาท เป็นค่ารถไปตรวจเอกสาร ส่วนค่าทำคดีคิดขั้นต้นสองแสนบาทก่อน ตนฟังแล้วสะอึก ไม่รู้ช่วยคนจนแบบไหน

ส่วนอีกคนทนายชื่อดังเหมือนกัน คนนี้เป็นทนายคนยาก พึ่งใครไม่ได้พร้อมจะสู้ไปด้วยกันมาที่ผม

ตนพาคนเงินน้อยไปหาอีกละ ทนายคนยากเรียกค่าเขียนคำอุทธรณ์จากคนเงินน้อยที่ไม่ได้วิ่งไปขอความช่วยเหลือจากกระทรวงยุติธรรม จำนวน 20000บาท คนไม่มีเงินขอต่อรอง 10000บาท ทนายคนยากบอกผมต้องกินต้องใช้

ตนเห็นแล้วมันมีแต่คนจอมปลอม ใช้เฟฃสร้างชื่อตนเองให้โด่งดังมีชื่อเสียง แต่ในที่สุดแล้วไม่ใช่

ตนหวังว่าสภาทนายความชุดใหม่นี้จะได้สร้างบรรทัดฐานที่ดีให้กับทนายความได้ประพฤติปฎิบัติ โดยเฉพาะการเรียกค่าทนายความกับความรับผิดชอบในการสู้คดี บางครั้งก็หนักหนาสำหรับคนมีเงินน้อยไม่เข้าข่ายที่จะไปขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความ ได้

จึงน่าที่จะมีทนายความที่มีเมตตาจิต มีความพอเพียง ในชีวิตแล้ว มาช่วยเหลือประชาชนคนพวกนี้บ้าง จะได้ไม่ถูกขูดรีดกันจนเกินไป