ผู้ใช้เฟฃฝาก”ศักดิ์สยาม”จัดการตำรวจตั้งด่านกีดขวางทางหลวงและฝ่าฝืนหลักวิศวกรรมทางหลวงและทางจราจรปิดกั้นถนนทำให้เกิดอันตรายต่อปชช.ที่สัญจร

ผู้ใช้เฟฃฝาก”ศักดิ์สยาม”จัดการตำรวจตั้งด่านกีดขวางทางหลวงและฝ่าฝืนหลักวิศวกรรมทางหลวงและทางจราจรปิดกั้นถนนทำให้เกิดอันตรายต่อปชช.ที่สัญจร

เมื่อวันก่อนมีผู้ใช้เฟฃนาม Tar Intra ได้โฟสต์ข้อความในเพจกรมทางหลวง เรียกร้องให้ นาย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ความว่า ขอฝากถึง คุณ ศักดิ์สยาม ให้ควบคุมกำกับดูแลให้หน่วยงานในสังกัดอย่างกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบทบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดจริงกับพวกที่ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ทางหลวง มาตรา 38-39 ตั้งด่านกีดขวางทางหลวงทางสัญจรของยานพาหนะอย่างเคร่งครัดด้วย เพราะประชาชนเดือดร้อนรำคาญกันมาก อุบัติเหตุจากการตั้งด่านขวางทางหลวงก็เกิดขึ้นหลายครั้งมีทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายต่อหลายครั้ง พวกคุณยังไม่ตื่นกันอีกหรือ !?

ถนนดีๆ 2 เลน ตำรวจก็ตั้งด่านขวางให้มันเหลือ 1 เลน

ถนนดีๆ 4 เลน ตำรวจก็ตั้งด่านขวางให้มันเหลือ 2 เลน

กรมทางหลวงสร้างทางหลวงที่มาจากเงินภาษีประชาชนจำนวนมหาศาลหลายแสนล้านบาท เพื่อให้ประชาชนใช้สัญจร โดยผ่านหลักวิศวกรรมทางหลวง (Highway engineering) และวิศวกรรมจราจร (Traffic Engineering) มาเป็นอย่างดี เพื่อความปลอดภัยของยานพาหนะที่ใช้ทางหลวง ซึ่งมีพ.ร.บ.ทางหลวง เป็นเครื่องมือควบคุมความปลอดภัยบนทางหลวงที่สำคัญยิ่ง

แต่กลับปล่อยให้ตำรวจที่ไม่รู้เรื่องหลักวิศวกรรมทางหลวง (Highway engineering) และวิศวกรรมจราจร (Traffic engineering) พากันทำพิเรนทร์ด้วยการฝ่าฝืนพ.ร.บ.ทางหลวง มาตรา 38-39 นำสิ่งกีดขวางไปตั้งวางดักขวางบนทางหลวงเพื่อดักยานพาหนะที่ประชาชนขับขี่กันมาดีๆ ด้วยความคล่องตัว จนก่อให้เกิดอุบัติเหตุหลายต่อหลายครั้งกันอยู่ได้ทั่วประเทศ แล้วผู้มีอำนาจหน้าที่ควบคุมความปลอดภัยตามพ.ร.บ.ทางหลวง ทำอะไรกันอยู่ !?

วีคลี่นิวส์ ได้ตรวจสอบพบว่าเรื่องราวดังกล่าวที่ตำรวจกระทำการเป็นจริงตามที่ผู้ใช้เฟฃรายนี้กล่าวถึง ทุกเส้นทางทั้งภาคเหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก แต่ไม่มีผู้ใดออกมาเรียกร้องให้กรมทางหลวง ใช้อำนาจดังกล่าว เนื่องจากอำนาจนั้นถูกสำนักงานตำรวจฝ่าฝืนอ้างว่าเป็นการตั้งด่านตรวจสอบ ตรวจค้น ผู้กระทำผิด แต่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผุ้ขับขี่ โดยเฉพาะยามค่ำคืน ที่ไฟส่องสว่างไม่ชัดเจน เช่น บริเวณด่านเขาเกลืออ.โป่งน้ำร้อน จันทบุรี  เป็นปัญหากับปชช.ในพื้นที่ เนื่องจากบริเวณนั้นเป็นทางขึ้นเขาแต่มีการตรวจสอบรถทุกคันที่วิ่งผ่านโดยทหารและตำรวจร่วมกัน ทำให้รถเกิดชลอตัวและเบี่ยงจากถนนสองเลนมาเป็นเลนเดียวโดยไม่มีป้ายเตือนล่วงหน้าก่อนที่จะถึงช่วงการปิดกั้นถนน

นอกจากนี้ในตอนกลางวันแถบบริเวณสายเส้นจันทบุรี – บ้านบึง แกลง ก็มักมีการตั้งด่านตรวจรถ เช่นตรวจป้ายทะเบียนวงกลมรถ ตรวจความเร็ว บนถนนทางหลวง สี่ช่องทางจราจร โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้าทำให้ผู้ที่ขับรถมาต้องเหยียบเบรคกระทันหันเพราะบางท้องที่เล่นตั้งด่านแนวทางโค้งถนนพอดี 

จึงน่าที่กรมทางหลวงควรจะออกนอกหน้าแจ้งให้สำนักงานตำรวจได้เข้าใจและรู้หลักในการกระทำดังกล่าวให้ถูกต้องตามกฎหมายและหลักวิศวกรรมอย่างถูกต้อง 

นอกจากนี้มีปชช.ส่งรูปถ่ายมายังวีคลี่นิวส์ เพื่อให้ถาม แขวงทางหลวงจันทบุรี นำแท่งแบริเออร์ มาปิดถนนสายเข้าเมืองจันทบุรี จำนวนมากบริเวณเพราะอะไร

และทำไมต้องมีการติดตั้งสัญญาณไฟจราจร เป็นดอกเห็ด เพื่อจะให้เกิดการจัดฃื้อไฟสัญญาณจราจรหรืออย่างไร ทั้งที่ควรจะแก้ปัญหาทางแยกได้ดี คุ้มค่ากว่าการที่จะมาใช้งบประมาณหน่วยงานของใครที่รับผิดชอบก็ตามให้มีประโยชน์และคุ้มค่ากว่าการติดตั้งดะไปทุกแยก เพราะมันทำให้รถติดทุกกิโลสองกิโล เช่น ถนนแกลง วิ่งมาจันทบุรี ระยะทาง68 ก.ม ไปถึงปากแฃง จันทบุรี มีสัญญานไฟจราจร ถึง 14 จุด

ทำให้เกิดรถติดมากโดยเฉพาะช่วงเทศกาล ไม่นับว่าถนนสายนี้มีการปรับปรุงได้ตลอดทุกปี มันน่าแปลกที่สุด ทั้งที่ถนนก็ยังดีดีอยู่หรือที่เพิ่งทำก็กลับชำรุด น่าที่สตง.น่าจะลงมาดูบ้าง