เปิดแผนที่ดินป่าสงวนแห่งชาติทหารให้”ต่างด้าวกองพล93”อยู่กลายเป็นรัฐอิสระประกาศขับไล่”คนไทย”ออกนอกพื้นที่อ้างใช้กฎหมายพิเศษยึดครองพื้นที่

ตามที่ผู้สื่อข่าวเสนอข่าวเกี่ยวกับการก่อสร้างโรงแรมขนาดใหญ่บนดอยแม่สลองฃึ่งเป็นที่ดินป่าสงวนแห่งชาติและทหารร่วมกับอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้ออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมให้กับผู้ประกอบการถึง10 แห่งมาตั้งแต่ปี2532 ก่อนที่จะมีการประกาศเป็นเขตที่ดินสปก.ในปี2537 นั้น  ที่ดินบนดอยแม่สลองเป็นเขตที่ทหารขอใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้อ้างเป็นพื้นที่เขตราชการทหารแต่ให้ชาวจีนฮ่อกลุ่มนายพลต้วนฃึ่งเรียกกันว่า“กองพล93” ฃึ่งหนีภัยมาอยู่อาศัย

(อ่านข่าวhttp://weeklynewsonline.net/?p=3972)

http://weeklynewsonline.net/?p=3972

โดยทหารได้กำหนดขอบเขตพื้นที่ดินให้ครอบครัวละ15 ไร่ทำกินทางการเกษตรระบุไว้ในหนังสืออนุญาตให้เข้าอยู่อาศัยและประกอบการเกษตรชาวจีนฮ่อกลุ่มนี้ว่า“ห้ามฃื้อขาย” “ให้ทำการเกษตรเท่านั้น”

   

และสำคัญคือหนังสือฉบับนี้ระบุว่า“ผู้ถือหนังสือฉบับนี้เป็นผู้ได้รับการผ่อนผันให้อยู่ชั่วคราวให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตที่ดินป่าสงวนแห่งชาติฃึ่งใช้ราชการทหารของกองบัญชาการทหารสูงสุดโดยต้องปฎิบัติตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติพ.ศ2507 ตลอดจนเงื่อนไขที่ระบุไว้ในด้านหลังของหนังสือนี้ทุกประการ

กลับปรากฎว่าชาวจีนฮ่อกลุ่มนี้เข้าใจผิดคิดว่าทหารยกที่ดินนั้นให้พวกตนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และสร้างstory ยกเรื่องราวที่ตนได้เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยช่วยขับไล่คอมมิวนิสต์ให้เป็นเรื่องบุญคุณที่ยิ่งใหญ่ขณะที่ประวัติศาสตร์ของไทยที่บันทึกไว้คือจีนฮ่อกลุ่มนี้ขออยู่ไทยต่อโดยไม่ขอกลับไปไต้หวันกองบัญชาการทหารสูงสุดจึงอนุญาตให้อยู่ในขอบเขตพื้นที่ที่กำหนด(ตามแผนที่ในภาพ) เท่านั้น

ต่อมามีการกระทำผิดเงื่อนไขที่ทหารกำหนดมีการก่อสร้างอาคารต่างๆมากมายจากชุมชนเล็กๆกลายเป็นชุมชนใหญ่  อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายหลายคนตั้งแต่ปี2532 – ปัจจุบันได้ออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมและต่อใบอนุญาตให้กับกลุ่มบุคคลเหล่านี้ทั้งที่รู้ดีว่าเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ

มีการสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐส่งเสริมให้มีสาธารณูปโภคต่างๆเข้าพื้นที่ทั้งถนนไฟโทรศัพท์  ฝ่าฝืนกฎหมายบุกรุกป่าสงวนแผ้วถ้างพื้นที่จนโล่งเตียนทั้งที่บริเวณนี้เป็นเขตต้นน้ำลำธารบางบ้านสร้างอยู่ที่สูงสุดของภูเขาหน่วยงานรัฐกลับส่งเสริมเอางบไปตัดถนนทำถนนอย่างดีขึ้นไปให้

โดยไม่มีข้าราชการใดใส่ใจกับกฎหมายเพราะร่วมมือกันอ้างว่าส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวทั้งที่เป็นการทำลายสภาพป่าโดยสิ้นเชิงฃึ่งควรอนุรักษ์ไว้

ทำให้ดอยแม่สลองกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชุมชนเล็กๆเป็นชุมชนใหญ่สำหรับคนที่เคยไปเมื่อหลายสิบปีก่อนจะเห็นภาพการเปลื่ยนแปลงที่ไร้การควบคุมระเกะระกะอาคารต่างๆขึ้นมาไม่ได้มาตรฐานการก่อสร้างไม่มีการขออนุญาตและถึงจะขออนุญาตองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สลองนอกก็ไม่สามารถอนุญาตให้ก่อสร้างได้เนื่องจากเป็นที่ป่าสงวน  และเป็นที่สปก.ก็ไม่อนุญาตให้มีการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่โดยเฉพาะโรงแรมได้

การที่อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมให้กับผู้ประกอบการบนที่ดินป่าสงวนหรือสปก.และข้าราชการในพื้นที่ต่างละเลยละเว้นต่อการปฎิบัติหน้าที่โดยไม่แจ้งไม่แจ้งความต่อการกระทำที่ผิดกฎหมายเหล่านี้เพื่อจะอาศัยกฎหมู่ให้อยู่เหนือกฎหมาย

จึงเป็นสิ่งที่ข้าราชการไม่สมควรกระทำ

โดยเฉพาะการอนุญาตให้มีการสร้างอาคารสำนักงานองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นขึ้นบนที่ดินป่า

เป็นเรื่องที่ไม่น่าอภัยเพราะทำให้เป็นตัวอย่างของการทำลายป่าต้นน้ำลำธาร

ด้วยเหตุนี้จึงมีการอพยพพวกจีนฮ่อจากที่อื่นเข้ามามีการเปลื่ยนมือผู้มีสิทธิใช้ประโยชน์ที่ดินจากเก่าเป็นใหม่หลายทอดจนจีนฮ่อกลุ่มเดิมที่เรียกว่ากองพล93ลดน้อยไปแทบสิ้น  กลุ่มใหม่เข้ามาแต่ยังคงอ้างstory เรื่องเดิมเพื่อเอาไว้เป็นไม้กันผีหากหน่วยราชการจะเข้ามาตรวจสอบก็จะอ้างstory กองพล93 มีบุญคุณกับปท.ไทยทั้งที่ประวัติศาสตร์ไทยบันทึกว่าปท.ไทยให้ความช่วยเหลือให้มีที่อยู่ไม่ต้องส่งตัวกลับไต้หวัน

storyดังกล่าวทำให้ต่างด้าวเหล่านี้ได้รับการแปลงสัญชาติสวมบัตรประชาชนบัตรหัวศูนย์บัตรตกสำรวจไม่หยุดหย่อน  สร้างรายได้ให้กับกระทรวงมหาดไทยมหาศาลไม่จบสิ้น

กลายเป็นชุมชนจีนฮ่อขนาดใหญ่มีอำนาจเหนือรัฐไม่อาจแตะต้องได้แม้จะห้ามไม่ให้ก่อสร้างอาคารโรงแรม  ก็ไม่สามารถหยุดยั้งหรือเชื่อฟัง

ผู้ประกอบการรายหนึ่งที่อดีตเคยสละสิทธิการครอบครองไปแล้วเมื่อยี่สิบปีก่อนวันนี้มาฟ้องร้องเรียกสิทธิและอสังหาริมทรัพย์คืนจากหญิงชาวไทยที่มาอาศัยทำกินในพื้นที่นี้ปักธงไทยบนแผ่นดินไทยกลับถูกกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมบนดอยแม่สลองจำนวนหนึ่งร่วมกับผู้บริหารระดับสูงมหาดไทยระดับอำเภอและภรรยาที่เป็นชาวอาข่ารวมหัวกันรังแกฟ้องร้องโดยสาวคนหนึ่งกล่าวว่า“พวกเราจะร่วมกันขับไล่ยายยุ้ยออกนอกพื้นที่”

ขณะที่ภรรยาผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยคนดังกล่าวว่า  “ถ้ามันอยากทำก็ให้มันทำเพราะมันจะดิ้นเฮือกสุดท้ายแล้วถ้าเราได้(ที่ดินและอสังหาที่ฟ้องร้องกันอยู่) มันก็ไป  “

ขณะที่ลูกสาวผู้ประกอบการที่พ่อฟ้องร้องหญิงไทยสู้ชีวิตรายนี้กล่าวว่า  หนูชนะในศาลอยู่แล้วด้วยกฎหมายพิเศษบางอย่างฃึ่งหนูคิดว่าชาวแม่สลองก็น่าจะลองสู้ดูสักตั้ง”

ผู้สื่อข่าวที่ขึ้นไปสังเกตุการณ์อยู่นานนับเดือนบนดอยแม่สลองกล่าวว่าดอยแม่สลองกำลังจะกลายเป็นรัฐอิสระดูจากการที่มีเพียงสถานที่ของหญิงไทยรายนี้เท่านั้นที่ปักธงชาติไทยโบกสะบัดให้รู้ว่าดินแดนนี้เป็นแผ่นดินไทยขณะที่รอบบริเวณแสดงสัญญลักษณ์ชุมชนจีนฮ่อทั้งสิ้น

 

ถึงกับประกาศว่า“ ที่นี่คนไทยไม่มีสิทธิอยู่เป็นที่ของกองพล93 คนจีนมาสร้างและพัฒนาเมืองนี้”

จึงเป็นที่มาของ“พวกเราต้องช่วยกันขับไล่ยายยุ้ยออกนอกพื้นที่”