ตั้งข้อสังเกตุมหาสารคามโมเดล ทุจริต ตามหา”หัว”ผู้บงการ

ตั้งข้อสังเกตุมหาสารคามโมเดล ทุจริต ตามหา”หัว”ผู้บงการ

กรณีที่นายกรัฐมนตรีใช้ม.44 ระงับการปฎิบัติหน้าที่ของข้าราชการอปท.72รายในจังหวัดมหาสารคาม นับเป็นเรื่องฮือฮา ที่น่าตกใจมากว่า ข้าราชการ อปท.หรือองค์กรบริหารการปกครองท้องถิ่น  จำนวนมากอย่างนี้ทำการทุจริตพร้อมกันได้อย่างไร

ในจังหวัดหนึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ดูแลทั้งข้าราชการและปชช.ให้อยู่ดีมีสุข จังหวัดนี้ก่อนหน้ามี ดร. โชคชัย เดชอมรธัญ อดีตรองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ผู้มีบทบาทในการจัดทำงบประมาณมากกว่าหมื่นล้านบาทของกรม ย้ายมาดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดได้เพียงปีเดียว

ข้อมูลทุจริตส่งเข้าหานายกรัฐมนตรี ฃึ่งใช้ ม.44 ระงับการทำงานข้าราชการในจังหวัดนี้ถึง72 คน ล้วนแล้วแต่คือปลัดและรองปลัด องค์กรเป็นส่วนใหญ่

ปลัดองค์กรถือเป็นข้าราชการสังกัดอปท. ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นข้าราชการประจำ จึงยิ่งน่าตกใจมาก ทั้งที่จังหวัดนี้มีอดีตรองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด ฃึ่งควรจะตรวจตรางานของข้าราชการสังกัดนี้ได้เป็นอย่างดี

และต้องรู้ถึงระเบียบขั้นตอนการปฎิบัติงานของข้าราชการอปท.อย่างแท้แน่นอน
แต่ไฉนข้าราชการเหล่านี้จึงไม่เกรงกลัวผู้ว่าราชการท่านนี้แต่อย่างใด

เมื่อมีการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคามตรวจสอบว่าทุจริตมีจริงหรือไม่ ผู้ว่าราชการตรวจสอบแล้วพบว่าจริง

วันต่อมาผู้ว่าราชการผู้นี้ได้รับการโยกย้ายให้ไปดำรงตำแหน่งในจังหวัดที่ถือว่าเกรดเอ คือ จังหวัดภูเก็ต

เป็นการให้รางวัลความสามารถอะไร อย่างไร จึงทำให้การแต่งตั้งครั้งนี้ถูกข้าราชการในจว.ภาคใต้ ค้านว่าไม่เป็นธรรม

ความเป็นจริง ผู้ว่าราชการปล่อยให้เกิดการทุจริตในองค์กรได้จำนวนมากขนาดนี้ ผู้ว่าราชการคนนั้นคงไม่มีใครได้ดีอย่างนี้ แต่ดร.โชคชัย เดชอมรธัญ กลับพลิกความคาดหมาย ได้ดิบได้ดีย้ายไปจังหวัดท่องเที่ยวก่อนปลดเกษียณราชการทั้งที่เหลือวาระอีกเพียงปีเดียว

ถือว่าโชคดีไม่เบาของท่านและผู้แต่งตั้งที่กลายเป็นข้อครหาในสังคม โดยเฉพาะปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ถูกตั้งข้อสังเกตุจากข้าราชการด้วยกันเองถึงการแต่งตั้งที่ไม่เป็นธรรมครั้งนี้

เมื่อย้อนมองดูข้าราชการ 72รายดังกล่าวพัวพันการทุจริต แน่นอนว่า ถ้าไม่มีผู้ใหญ่ให้การสนับสนุนคงไม่มีข้าราชการจำนวนมากเช่นนี้กล้าทำ

การตรวจสอบจึงควรที่จะเข้มข้นว่าใครอยู่เบื้องหลังการทุจริตอันยิ่งใหญ่นี้ ลำพังข้าราชการระดับแค่ปลัดจะกล้าโกงกินทั้งจังหวัดมันผิดวิสัยถ้าไม่ได้รับไฟเขียวมา

ถ้านายกรัฐมนตรีเปิดไฟไล่โกง แล้ว ศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบเปิดดำเนินการแล้ว อย่าเพียงเอาผิดแค่ข้าราชการตัวเล็กตัวน้อย ต้องสืบสาวเอาเรื่องไปถึงตัวผู้บงการหรือบัญชาการด้วย

เมื่อรวมแล้วในจังหวัดนี้มีการทุจริตไปเป็นจำนวนเท่าใด เงินทีทุจริตส่งไปให้ใคร เส้นทางการเงินเดินอย่างไร

ไม่ยากเกินที่ปปง. ปปช. จะดำเนินการ ขอให้เอาจริงตามหา”หัว”ผู้บงการ ให้ได้สักทีเถิด ปัญหาทุจริตจะได้น้อยลง นโยบายทุกรัฐบาลจะได้เป็นจริง

ประเทศชาติจะได้เจริญ สักที

พัชรินทร์