สังคม-การเมือง

สังคม-การเมือง ประจำวันที่ 29 ธันวาคม2558 ***ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยดลบันดาลให้ผู้อ่านทุกท่านและครอบครัวจงประสบแด่ความสุข ได้พบแต่สิ่งที่ดีงาม ตลอดปี 2559 ***แวะไปเยี่ยมเยียนสำนักงานอัยการสูงสุดของ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑบริภาร พบการ ต้อนรับที่อบอุ่นจาก ทีมงานเลขานุการอย่างดี สะท้อนได้ว่านายที่ดีเป็นอย่างไร

***เพิ่งรู้ว่าศาลยุติธรรมเป็นผู้เสนอให้มีการจัดตั้งศาลปราบทุจริต และครม. กับ สนช.ชุดนี้ก็ทำตัวบริสุทธิ์ผุดผ่องรีบเตรียมออกพรบ.มาบังคับใช้ในเดือนเมษายนหน้านี้ทันที ***การรีบเร่งออกกฎหมายเพื่อหวังจะเอามาเล่นงานคนทุจริต มันก็เป็นดาบสองคม คมที่หนึ่งอาจจะบาดตัวเอง คมที่สองอาจจะบาดคนที่ถูกให้เป็นผิด ผิดให้เป็นถูก เพราะสามารถเป็นเครื่องมือสร้างอำนาจให้คนได้ หรือเป็นคนที่อยากจะใช้กฎหมายจัดการศัตรูได้ *** เมื่อระบบความยุติธรรมบ้านเรายังไม่เป็นที่เชื่อมั่นต่อสังคม ต่อให้ตั้งศาลมากี่องค์กร จะมีประโยชน์ต่อปชชอย่างไร เมื่อการตรวจสอบของปชชยังเข้าไม่ถึง***กรณีใช้รถหลวงไปรับส่งลูกเมีย ใช้รถหลวงไปทำสวนของตัวเอง ใช้เวลางานหลวงไปตีกอล์ฟ อย่างนี้ถือเป็นการทุจริตหรือไม่ หากเป็นศาลปราบทุจริตนี้คงจะเหนื่อยเอาการ และต่อไปคงจะกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณา”สาระ”ขึ้นมารับฟ้องอีก***ทุกวันนี้ศาลอาญาทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว ไม่รู้จะต้องตั้งขึ้นมาให้ซำ้ฃ้อนฃ่อนเงื่อนด้วยเหตุผลใด นอกจากเอาไว้สร้างอำนาจอันยิ่งใหญ่ เมื่อปปช.สามารถชี้มูลความผิดให้แล้ว ส่งต่อมายังหน่วยงานให้ลงโทษ ก็แล้วจึงสงสัยอยู่ว่าจะมีผลคัดง้างกันหรือไร*** กรณีกรมบังคับคดีได้ดอกเบี้ยเงินฝากจากเงินที่ขายทรัพย์สินของลูกหนี้หรือกระทรวงทบวงกรม หน่วยงานอิสระ ได้ดอกเบี้ยจากเงินต่างๆแล้วมีการตั้งงบกลับมาให้หน่วยงานนั้นเป็นการตอบแทนจะถือว่าทุจริตหรือเป็นเงินสวัสดิการได้ถามปชชเจ้าของเงินหรือไม่ *** ปชชใช้อำนาจผ่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อไม่มีสมาชิกฯปชชก็อยู่กันแบบถูกกดขี่เอารัดเอาเปรียบไม่มีปากเสียง วันนี้เสียงของข้าราชการจึงดังเหลือเกิน ดังเสียจนจะเรียกเก็บเงินค่ารักษาพยาบาล ทั้งที่รัฐควรจะจัดให้ปชชมีสิทธิขั้นพื้นฐานในการเข้าถึงการรักษา แต่กลับมองเรื่องนี้เป็นภาระของรัฐ มันก็เอวังด้วยประการฉะนี้***เปิดตัวเลขอัตราค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลต่อคนพบว่าสวัสดิการข้าราชการ ตกคนละ 12,534 บาทต่อปี ดูแลคน5ล้านคนบริหารโดย กรมบัญชีกลาง,กองทุนประกันสังคม (ผู้ประกันตน) คนละ 3,276 บาทต่อปีดูแล10ล้านคน บริหารโดย ประกันสังคม, กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) คนละ 2,922 บาทต่อปี ดูแล 48ล้านคน บริหารโดยสปสช. ***พบว่างบบัตรทองมีค่าใช้จ่ายต่อหัวต่ำที่สุด แต่คนตัวตั้งตัวตีเรื่องนี้คือ นพ ปิยะสกล สกลสัตยาทร กลับออกมาให้ข่าวใส่ร้ายงบบัตรทองว่าเป็นภาระงบประมาณของประเทศ จนถึงขั้นเรียกร้องให้ประชาชนต้องร่วมจ่ายเงินเมื่อเข้ารักษาในโรงพยาบาล***เมื่อย้อนกลับไปดูการบริหารงานของรัฐบาลยุคข้าใหญ่นี้แล้ว มีแต่คนเชลียร์ไม่หยุดหย่อนแม้กระทั่งโพลความนิยมยังหลอกกันได้ว่า90กว่า% ประสานกกระจิบ ไม่มีวันเชื่อเด็ดขาด***ตลกสิ้นดี ปชช.ไปอำเภอเก้อ เหตุเพราะวัสดุผลิตบัตรปชชหมด หลายอำเภอปฎิเสธการทำบัตร ไม่รู้หน.ฝ่ายทะเบียนนั่งทองไม่รู้ร้อนก่อนวัสดุหมดได้ไง ***

***ปิดท้าย-100คำสอนของสมเด็จพระสังฆราช- คนมีอำนาจเหนือกรรม อาจควบคุมกรรมของตนได้ แต่ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่าจะต้องควบคุมจิตเจตนาของตนได้ด้วย โดยตั้งมั่นแน่วแน่อยู่ในธรรม เช่น เมตตา สติ ปัญญา สัจจาธิษฐาน เป็นต้น อันเป็นส่วนของจิต และศีล อันหมายถึงตั้งเจตนา เว้นการที่ควรเว้น ทำการที่ควรทำ ในขอบเขตอันควร

นกกระจิบ