ประสิทธิภาพการทำงาน ระหว่าง อัยการ- ศาลยุติธรรม ต่อทุกข์ปชช

ยุคนี้ข้าราชการเป็นใหญ่ เพราะผู้นำปทกลัวไม่มีพวกพ้อง ทำอะไรจึงประเคนๆให้ข้าราชการมานาน วันนี้คงได้สติว่าปชช.คือคนที่รัฐต้องดูแล เอาใจใส่ จึงเตรียมการรื้อระบบ ปฎิรูปข้าราชการ เร็วๆนี้

อย่างหนึ่งคือพฤติกรรมของข้าราชการ ที่ถูกร้องเรียน ส่วนใหญ่แล้วหน่วยงานมักจะเข้าข้างกัน โดยลืมความหน้าด้านอายอดของหน่วยงานตนเองเสียสิ้นที่สอบสวนแล้ว ผลออกมาแบบด้านๆไม่มียางอายกัน

กล้าลงนามในผลสอบสวนว่า ” ไม่มีพฤติการณ์ ไม่พบหลักฐาน ไม่มีเหตุนั้นเกิดขึ้น”

ช่างน่าละอายนัก

วันก่อนที่ปชช.ร้องเรียนถึงพฤติกรรมการแสดงออกทั้งกาย วาจา ของ อัยการศาลสูง จังหวัดจันทบุรี ต่อ อัยการสูงสุด ร.ต.ต พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณท์บริภาร ฃึ่งถือเป็นข้าราชการระดับสูง เพื่อหวังว่าระดับผู้บริหารสูงสุดของสำนักอัยการสูงสุดจะตรวจตรา เข้มงวด ต่อการปฎิบัติหน้าที่โดยไม่เห็นแก่หน้าตาของพวกเดียวกัน โดยผู้ร้องเรียนไม่ใช่ตาสีตาสาที่ไม่มีความรู้ ไม่มีฐานะทางสังคม ไม่มีจิตสำนึก หรือ โง่พอที่จะเห็นว่าข้าราชการอัยการนี้สูงส่งยิ่งนัก ใครแตะต้องไม่ได้

ผลการร้องเรียนจึงออกมาว่า อัยการศาลสูง คนนั้น ไม่ได้มีพฤติการณ์ดังกล่าว ทั้งที่พยานบุคคลมีเป็นจำนวนมาก

อย่างนี้ปชช.จะเชื่อมั่นและศรัทธา ต่อหน่วยงานนี้ได้อย่างไร

                    

ร.ต.ต พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณท์บริภาร                                              อธิคม อินทุภูติ

 

ในเรื่องคำร้องเรียนแบบเดียวกันของข้าราชการระดับสูงศาลจังหวัดจันทบุรี ต่อ เลขาธิการศาลยุติธรรม ท่าน อธิคม อินทุภูติ เกี่ยวกับการพูดจา แสดงออกต่อปชช.ที่ไปติดต่อ ผลการตรวจสอบพบว่า มีพฤติการณ์ตามคำร้องเรียน มีความผิดแต่ไม่ถึงกับผิดวินัย จึงได้ว่ากล่าวตักเตือน

ช่างกล้าหาญ รับผิดต่อตนเองและสังคม เป็นที่น่าเคารพ ศรัทธา เชื่อมั่น ในหน่วยงานยิ่งนัก เป็นแบบอย่างของผู้มีจริยธรรมในองค์กรที่น่าเคารพ กราบไหว้ ยกย่อง เป็นที่พึ่งของปชช. แม้เพียงเรื่องเล็กน้อย แต่ภาพพจน์ขององค์กรเป็นเรื่องใหญ่ ที่ควรรักษาไว้

เพื่อให้ข้าราชการในองค์กรได้มีประสิทธิภาพ สมเจตนารมย์และนโยบายที่กำหนดไว้ นำพาฃึ่งเกียรติยศของข้าราชการในองค์กรที่เดินไปในสังคมแล้วมีศักดิ์ศรี เป็นที่เคารพยกย่อง ได้สนิทใจ

การดำรงตนเป็นผู้บริหารในองค์กรจึงสำคัญนัก องค์กรนั้นจะดีไม่ดี จึงดูการปฎิบัติหน้าที่ของหัวเป็นสำคัญ ดังที่ว่า ถ้าหัวไม่ส่าย หางจะกระดิก ได้อย่างไร

หลายผู้นำองค์กรจึงเพิกเฉยต่อเสียงร้องของปชช. เพราะคิดว่าแค่เสียงนกเสียงกา ปล่อยปัญหาหมักหมมจนเน่าเหม็น ไม่สนใจ สุดท้ายต้องใช้กระบวนการทางศาล ใช้ม.157 เข้ามาจัดการ ใช้ระบบรื้อค้นตรวจตรา หลายเรื่อง หลายคดี เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ใช้ศาลปกครอง เข้ามาเกี่ยวข้อง

ผู้นำองค์กรอย่างนี้ สะท้อนภาพ ได้ชัดเจน ว่าเป็นองค์กรที่พึ่งของปชช.ได้จริงหรือ

ก็น่าที่จะปฎิรูปองค์กรประเภทนี้ให้มีจริยธรรมเช่นเดียวกับศาล ( ปลายน้ำ)
เพราะไหนๆจะปฎิรูปต้นน้ำ ( สำนักงานตำรวจแห่งชาติ)แล้ว ก็น่าจะปฎิรูป กลางน้ำ ( สำนักงานอัยการสูงสุด) ให้เป็นที่พึ่งของปชชอย่างแท้จริงไปด้วย ก็จะดีนะท่าน พล เอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
พัชรินทร์