สลดอดีตสนช. คุณตาวัย 75 เสียชีวิตหลังบังคับคดีเชียงรายนำคำสั่งศาลสั่งยึดที่ดินชดใช้ค่าเสียประโยชน์ วีคลี่นิวส์เรียกร้ององค์กรศาลและหน่วยงานยุติธรรมตรวจสอบคำพิพากษา
สลดอดีตสนช. คุณตาวัย 75 เสียชีวิตหลังบังคับคดีเชียงรายนำคำสั่งศาลสั่งยึดที่ดินชดใช้ค่าเสียประโยชน์ วีคลี่นิวส์เรียกร้ององค์กรศาลและหน่วยงานยุติธรรมตรวจสอบคำพิพากษา
หลังจากวีคลี่นิวส์และสื่อออนไลน์หลายแห่งเสนอข่าวการบุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติบนดอยแม่สลองก่อสร้างโรงแรมขนาดใหญ่มากกว่า 30 แห่งโดยไม่มีใบอนุญาตก่อสร้างและอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย อดีตนายอำเภอแม่ฟ้าหลวงหลายสมัยหลายคน ออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมให้กับผู้ประกอบการเหล่านั้น โดยฝ่าฝืนกฎหมาย ทั้งที่มีระเบียบ
ในการออกใบอนุญาตกำหนดเอกสารหลักฐานประกอบคำขออย่างชัดเจนต้องมีเอกสารสิทธิ์ในที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดินไม่ใช่เป็นเพียงเอกสารใบอนุญาตครอบครองทำกิน
แต่เหตุเกิดเพราะมีผู้ประกอบการรายหนึ่ง ชื่อ คุ้มนายพลรีสอร์ท ถูกนาย ปรีชา อดีตผู้ว่าราชการจังหวัด เชียงราย สั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม และ ถูกหน่วยราชการหลายแห่งในจังหวัด เชียงรายต่างรุมกันแกล้งในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะสำนักงานปฎิรูปที่ดินจังหวัดเชียงราย
และองค์กรศาลยุติธรรม ฃึ่งเป็นผู้พิจารณาคดี โดยส่งผลมาถึงการเสียชีวิตของอดีตสนช.คุณ ตา วัย 75 พ.ต.ท พงษ์ชัย วราชิต มีโรคประจำตัว”หัวใจ” หลังจากที่ได้ทราบเรื่องว่าสนง.บังคับคดีเชียงราย นำคำสั่งศาลยึดที่ดินของตนเองผืนสุดท้ายเพื่อนำไปชดใช้ค่าเสียประโยชน์ให้กับนาย อ. ผู้ฟ้องคดี ที่นำความไปฟ้องศาลจังหวัดเชียงรายในข้อหา ละเมิด ลาภมิควรได้ และ ศาลตัดสินให้ คุณตาท่านนี้ ต้องส่งมอบทรัพย์สินคืนและจ่ายค่าเสียประโยชน์ให้ นาย อ. ผู้ฟ้องคดี เป็นเงินเดือนละ50,000 บาท นับแต่วันฟ้องที่ 23ก.พ 58 จนกว่าจะคืน”สิทธิครอบครองที่ดินพิพาท”และกิจการโรงแรม ร้านอาหาร ให้แก่นาย อ. ผู้ฟ้องคดี ฃึ่งเป็นจีนฮ่อ ได้รับสิทธิครอบครองที่ดินทำกินในที่ดินป่าสงวนแห่งชาติบนดอยแม่สลอง เพื่อประกอบการทำเกษตรกรรม เป็นการชั่วคราวเท่านั้น จากทหาร ที่ขอใช้พื้นที่ป่านี้จากกรมป่าไม้ เพื่อให้จีนฮ่อสมัยนั้นได้มีที่ดินทำการเกษตร
แต่ปรากฎว่า นาย อ. ผู้ฟ้องคดี ป่วย ต้องการนำเงินไปรักษาตัว จึงมาติดต่อขอความช่วยเหลือจากคุณตา พ.ต.ท พงษ์ชัย วราชิต เพื่อขาย ทรัพย์สิน และ สิทธิครอบครองที่ดิน นี้ให้แก่พ.ต.ท พงษ์ชัย เป็นเงินจำนวนหลายล้านบาท มีการจดทะเบียนส่งมอบทรัพย์สินถูกต้องเรียบร้อย ต่อมาพ.ต.ท พงษ์ชัย ไม่สามารถดูแลกิจการโรงแรมและร้านอาหารแห่งนี้ได้จึงส่งมอบสิทธิครอบครองและทรัพย์สินนี้ให้กับนาง ณรีพัฒน์ สวัสดิเสวี ดำเนินกิจการโดย นาย อ. ผู้ฟ้องคดี ได้ลงนามเปลื่ยนแปลงชื่อเจ้าของผู้ประกอบกิจการธุรกิจโรงแรมคุ้มนายพลรีสอร์ท ให้กับ นาง ณรีพัฒน์ เสร็จสิ้นเรียบร้อยโดยถูกต้องเช่นกัน
นาง ณรีพัฒน์ ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี 43 ปรับปรุงสภาพจากอาคารที่ใช้งานไม่ได้เรื่อยมาจนถึงกิจการมีชื่อเสียงโด่งดัง ดอยแม่สลองจากที่ป่าสงวนแห่งชาติ มีการบุกรุกสร้างโรงแรมขนาดใหญ่ โดยไม่มีหน่วยงานรัฐหน่วยใดเข้าไปดำเนินการจับกุม ป้องปราม หรือห้าม แถมมหาดไทย ยังสนับสนุน ให้มีการสร้างอบต.บนที่ป่า นำน้ำ ไฟบริการให้ถึงที่ เป็นการสนับสนุนผู้บุกรุกป่าต้นน้ำลำธาร โดยไม่คำนึงถึงก.ม
และ ทำถนนลาดยาง อย่างดี สนับสนุนผู้บุก จนน่าตกใจว่า หน่วยงานรัฐจะกล้าทำได้เช่นนี้โดยไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง
จนถึงปี 53 ผ่านมาสิบปี นาย อ. ผู้ฟ้องคดี กลับเข้ามาในพื้นที่ยื่นเรื่องฟ้องต่อศาลเชียงรายกล่าวหา พ.ต.ท พงษ์ชัย วราชิต และ นาง ณรีพัฒน์ สวัสดิเสวี ในข้อหา ความผิดเรื่อง “สัญญา”
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ตัดสินคดีสิ้นสุดเมื่อวันที่ 25 ก.ค 54 ให้ สัญญาที่นาย อ. ผู้ฟ้องคดี นำมาฟ้องนั้น ตกเป็นโมฆะ เป็นสัญญาต้องห้ามนาย อ. ผู้ฟ้องคดี ไม่สามารถนำสิทธิการครอบครองที่ดินที่ได้รับอนุญาตนั้นไปขายได้ และไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายที่ผ่านมาหรือในอนาคตได้
ปรากฎระหว่างนั้น นาย อ. ผู้ฟ้องคดี ตกอยู่ในภาระคดีล้มละลาย ทำให้ พ.ต.ท พงษ์ชัยไม่สามารถเรียกร้องเงินที่ได้จ่ายไปจำนวนหลายล้านบาทจากนาย อ. ผู้ฟ้องคดี ได้ ทำให้การส่งมอบคืนทรัพย์สิน ระหว่างกันสิ้นสุด
ต่อมา นาย อ. ผู้ฟ้องคดี นำความไปฟ้อง พ.ต.ท พงษ์ชัย วราชิต กับ นาง ณรีพัฒน์ สวัสดิเสวี ใหม่ ในข้อหา ละเมิด ลาภมิควรได้ ( ในที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ )
ติดตามอ่านเรื่องราวต่อในครั้งหน้า
ใส่ความเห็น