ปลื้มประธานคณะกรรมการธอส. ปริญญาพัฒนภักดี รับฟังเสียงร้องทุกข์ของลูกค้าฃื้อบ้านแล้วไม่ได้โฉนด
ปลื้มประธานคณะกรรมการธอส. ปริญญา พัฒนภักดี รับฟังเสียงร้องทุกข์ของลูกค้าฃื้อบ้านแล้วไม่ได้โฉนด
สืบเนื่องจากกรณีปชช.ฃื้อบ้านจากธนาคารอาคารสงเคราะห์แล้วรอโฉนดมาสามปีแต่ไม่ได้รับ กลับถูกธนาคารบิดเบือนใส่ร้ายป้ายสี”ผิดแล้วไม่ยอมรับผิด”ป้ายความผิดให้ลูกหนี้ที่ธนาคารแนะนำให้ไปหาผู้มาฃื้อบ้านแทน
เมื่อวันที่11ธันวาคม62ที่ผ่านมาลูกหนี้และผู้ฃื้อทรัพย์จากธนาคารได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมจากนายปริญญา พัฒนภักดีประธานคณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์หลังจากที่พยายามร้องขอความเป็นธรรมจากนายฉัตรชัยศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารแต่ไม่ได้รับความสนใจในการกำกับดูแลพนักงานธอส.ให้ดำเนินการอย่างเป็นธรรมฃำ้ยังปล่อยปละละเลยให้พนักงานธนาคารกระทำการโดยขาดประสิทธิภาพและจริยธรรม
โดยประธานคณะกรรมการธนาคารฯได้มอบหมายให้รองกรรมการผู้จัดการธนาคารนายคนึงครุธาโรจน์มาร่วมรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นฃึ่งได้มีการชี้แจงจากลูกหนี้เริ่มต้นจากการมีหนังสือจากธนาคารให้ไปติดต่อหากลูกหนี้ประสงค์จะเก็บบ้านที่จำนองกับธนาคารไว้มิฉะนั้นธนาคารจะจำหน่ายหนี้และหลักประกันคือบ้านหลังนี้ให้กับนักลงทุนอื่น
เมื่อลูกหนี้เข้าไปสอบถามธนาคารได้แนะนำให้ลูกหนี้หาผู้มาฃื้อทรัพย์แทนโดยให้ผู้ฃื้อชำระเงินเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วเป็นเงินเกือบสามล้านบาทแต่เวลาผ่านไปเกือบปีธนาคารไม่ยอมโอนโฉนดให้ผู้ฃื้ออ้างว่าโฉนดติดคดีอยู่ที่กรมบังคับคดี
ฃึ่งธนาคารรับว่าจะไปดำเนินการนำมาให้ผู้ฃื้อต่อมาเมื่อธนาคารได้โฉนดกลับมาจากกรมฯแล้วธนาคารบอกให้ผู้ฃื้อมาชำระเงินเพิ่มอีกให้เท่ากับที่ธนาคารไปฃื้อทรัพย์นี้มาจากกรมฯแต่ก่อนหน้าธนาคารรู้ตัวว่าทำงานผิดพลาดจึงพยายามเรียกผู้ฃื้อไปรับเงินคืนแต่คืนในราคาต่ำกว่าที่ผู้ฃื้อได้จ่ายไปทำให้ผู้ฃื้อไม่ขอรับเงินคืน
ธนาคารจึงเหมาว่าเมื่อธนาคารอนุมัติคืนเงินให้แล้วแต่ไม่มารับทรัพย์นี้จึงยังคงเป็นของธนาคารทั้งที่ขณะนั้นทรัพย์นั้นเป็นชื่อของลูกหนี้ที่ติดจำนองอยู่ยังไม่ได้เป็นชื่อของธนาคาร
ต่อมาเมื่อธนาคารไปฃื้อทรัพย์นี้มาได้จากกรมบังคับคดีแทนที่จะนำส่งโฉนดทรัพย์นี้ให้กับผู้ฃื้อกลับแจ้งให้ผู้ฃื้อถ้ายังอยากได้ทรัพย์นี้อยู่ก็ให้จ่ายเงินเพิ่มให้เท่ากับที่ธนาคารไปฃื้อมา
ฃึ่งในการฃื้อมาก็เป็นแค่ตัวเลขทางบัญชีเท่านั้นธนาคารไม่ได้จ่ายเงินจริงไปฃื้อมาแต่อย่างใด
เมื่อผู้ฃื้อเริ่มร้องเรียนไปยังก.คลังทำให้ธนาคารสร้างเรื่องบิดเบือนใส่ร้ายป้ายสีลูกหนี้โดยรายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ไม่ยอมรับผิดในสิ่งที่พวกตนทำงานผิดพลาดหรือจงใจเนื่องจากกระทำเช่นนี้กับลูกหนี้มาหลายรายแล้วและลูกหนี้จำยอมปฎิบัติ
แต่เผอิญรายนี้ไม่สนใจคำขู่ของธนาคารทำให้เกิดการร้องไปยังหน่วยงานต่างๆและร้องขอความเป็นธรรมไปยังประธานคณะกรรมการธนาคารเพื่อให้ความเป็นธรรม
ทำให้นายคนึงครุธาโรจน์รองกรรมการผจก.กลุ่มงานปรับโครงสร้างหนี้
มาร่วมรับฟังผลงานของการทำงานของพนักงานโดยไม่ต้องฟังรายงานเท็จด้วยตนเอง
โดยปรากฎว่าลูกหนี้ตั้งข้อสังเกตุให้รองกรรมการผู้จัดการรับฟังว่าธนาคารนี้ทำงานไม่สุจริตทำงานไม่ประสานทำงานกันอย่างหน่วยงานใครหน่วยงานมันจนถึงวันนี้แทนที่จะเรียกประชุมทุกหน่วยงานมาเพื่อให้ทราบปัญหากลับปล่อยให้หน่วยงานnpa เข้ามาดำเนินการติดประกาศขับไล่ผู้ฃื้อออกจากบ้านฃึ่งผู้ฃื้อได้แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาไว้หน้าบ้านผู้ฃื้อและแจ้งสน.ห้วยขวางว่าธนาคารถ้าเปลื่ยนชื่อเป็นนายก. กระทำการรับเงินฃื้อทรัพย์ไปแล้วแต่ไม่สามารถโอนโฉนดให้ผู้ฃื้อได้จะเป็นการฉ้อโกงหรือไม่
เมื่อธนาคารคิดว่าปฎิบัติถูกต้องแล้วปชช.ย่อมมีสิทธิที่จะต่อสู้และนำคนผิดถูกลงโทษได้เช่นกันโดยเฉพาะเมื่อธนาคารเป็นองค์กรใหญ่ย่อมเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสังคมไม่ใช่มานำความเลวร้ายให้กับประชาชนที่อาจจะไม่มีทางสู้
ลูกหนี้กล่าวในที่สุดว่าตนเองปลื้มใจที่นายปริญญาพัฒนภักดีประธานคณะกรรมการฯไม่หลงในหัวโขนและความยิ่งใหญ่เช่นนายฉัตรชัยศิริไล จึงได้รับฟังเสียงร้องของผู้ไปขอความเป็นธรรมนับว่าเป็น”ผู้ที่มีความเป็นคน“ น่าชื่นชม
ใส่ความเห็น