ตกตะลึงธอส.ปรับปรุงสะพานเชื่อมอาคารใช้งบเกือบสิบล้านบาทเป็นไปตามคาดหลังธอส.ขายพันธบัตรรับเงินกว่าห้าหมื่นล้านบาทถลุงจนหน่วยปราบทุจริตควรจับตา

ภายหลังที่กระทรวงการคลังสนับสนุนให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ออกสลากขายให้กับประชาชนทั่วไปรับเงินงวดแรกไปแล้วห้าหมื่นล้านบาทติดใจหาเงินได้ง่ายออกสลากรอบสองในเวลาต่อมานั้นเมื่อวานนี้ผู้สื่อข่าววีคลี่นิวส์ได้รับแจ้งจากลูกค้าธอส.ให้มาดูการเปลื่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ของธอส. ทำให้ได้พบว่าธนาคารมีการเปลื่ยนแปลงปรับทางเดินรถใหม่โดยลงทุนใช้งบมหาศาลในการทำราวที่กั้นรถเป็นสีสแตนเลสแข็งแรงทนทานจำนวนมากมายหลายอันคาดน่าจะตกอันละหมายหมื่นอาจจะเป็นหลายแสนถ้ามีขนาดยาวใหญ่

แต่สิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดคือการก่อสร้างปรับปรุงสะพานทางเชื่อมอาคารและหลังคาคลุมทางเดินบริเวณหน้าอาคาร2 ในราคาค่าก่อสร้างสูงถึง9,800,000 บาทโดยมีห้างหุ้นส่วนจำกัดชุมพรตั้งฮวดหลีเป็นผู้รับจ้างระยะเวลาดำเนินการเริ่มตั้งแต่วันที่1 .2562 ถึง28 .63 รวมสี่เดือนตามสัญญจ้างเลขที่จพ.(สบส)386|2562 ลว.20 .62

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ปกติสะพานทางเชื่อมอาคารระหว่างอาคาร1 ไปอาคาร2 มีอยู่แล้วแต่ขณะที่ผู้สื่อข่าวไปสังเกตการณ์เมื่อวันที่11 .62 การก่อสร้างยังไม่เปิดเผยโฉมเนื่องจากมีการนำแผงกั้นความปลอดภัยมาบังไว้จึงไม่เห็นว่าจะเป็นการปรับปรุงสะพานทางเชื่อมใหม่หรือสร้างใหม่กันแน่

แต่จากรายละเอียดการก่อสร้างแจ้งว่าเป็นการปรับปรุงฃึ่งไม่รู้ปรับปรุงอย่างไรค่าปรับปรุงจึงสูงเกือบสิบล้านบาทเช่นนี้มันจำเป็นต้องลงทุนมากมายขนาดนี้เชียวหรือเกินความจำเป็นหรือไม่เมื่อสะพานเชื่อมนี้มีระยะเพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น

วีคลี่นิวส์เคยเตือนถึงการที่กระทรวงการคลังใช้วิธีออกกฎหมายให้ธนาคารของรัฐหาเงินด้วยวิธีการขายสลากอย่างธนาคารออมสินมาแล้วว่าเป็นการหาเงินเพื่อนำเงินนั้นอ้างว่าไปขยายงานจนธนาคารนั้นกลายเป็นแหล่งกอบโกยเงินได้อย่างง่ายๆ

มารัฐบาลชุดนี้โดยกระทรวงการคลังก็ใช้วิธีเดียวกันนี้อีกเพื่อให้ธกส.หาเงินล่าสุดมาธนาคารอาคารสงเคราะห์ใช้วิธีเดียวกันคือออกกฎหมายเพื่อให้ธอส.หาเงินด้วยการออกสลากขายให้ปชช.

เป็นการระดมเงินจากปชช.อย่างง่ายๆโดยอ้างจะนำเงินนั้นไปลงทุนขยายการดำเนินงานเงินจำนวนมหาศาลที่ได้ไปนำไปให้ผู้บริหารสร้างนโยบายในรูปแบบต่างๆออกมาเพื่อหาเหตุใช้เงิน

ที่สำคัญคือเงินที่ได้จากการขายสลากคือเงินรายรับจำนวนมากเงินจำนวนนี้สามารถปิดบังตัวเลขการขาดทุนของธนาคารได้

ดังนั้นจะไม่เห็นตัวเลขว่าธนาคารขาดทุนเท่าไรแต่จะเห็นตัวเลขจากรายรับที่ไม่มีการขาดทุนทำให้ดูเหมือนผู้บริหารทำงานมีประสิทธิภาพผลประกอบการมีแต่กำไรทั้งที่ความจริงอาจขาดทุน

ก็ขอให้ดูการออกสลากขายในตอนไตรมาสที่สี่จะเห็นได้ชัดว่าหากมีการขายสลากในงวดนี้ยิ่งต้องจับตามองว่าสถานะการบริหารธนาคารเป็นอย่างไร

อย่างไรก็ตามเมื่อมองดูการใช้เงินภายหลังมีการขายสลากล๊อตแรกของธอส.ได้เงินไปห้าหมื่นล้านบาททำให้ผู้บริหารสบายอกสบายใจทำงานอย่างไม่ต้องกังวลเพราะต่อไปจะมีแต่ตัวเลขกำไรออกมาให้เห็น

ทำให้บางคนอย่างผู้อำนวยการธนาคารออมสินถูกกระทรวงการคลังขยายสัญญาจ้างทำงานออกไปเมื่อครบอายุสัญญาโดยไม่ตรวจสอบรายละเอียดที่ผ่านมาว่าได้ใช้เงินของธนาคารไปในทางที่เหมาะสมหรือไม่

เช่นเดียวกันกับกรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ฃึ่งจะหมดอายุสัญญาจ้างบริหารในเร็วๆนี้ก็สามารถที่จะมีเงินที่รับจากขายสลากนี้ไปสร้างนโยบายใช้เงินไปในทางที่ไม่เหมาะไม่ควรได้เช่นกัน

เพื่อให้กระทรวงการคลังต่อสัญญาจ้างโดยไม่ต้องสรรหาผู้บริหารใหม่

แต่เมื่อเร็วๆนี้ได้มีลูกหนี้ธนาคารได้ร้องต่อปปช.ให้ตรวจสอบกรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์กระทำผิดเพิกเฉยละเลยปล่อยให้พนักงานธนาคารดำเนินการฉ้อฉลกับลูกหนี้และผู้ฃื้อทรัพย์ที่ชำระเงินครบถ้วนแล้วแต่ไม่สามารถโอนโฉนดให้ผู้ฃื้อได้แล้วยังกลั่นแกล้งบิดเบือนรายงานเท็จต่อกระทรวงการคลังปัดความผิดในเรื่องราวไปให้แก่ลูกหนี้ฃึ่งนายฉัตรชัยศิริไลกรรมการผู้จัดการทราบเรื่องแล้วแต่ไม่ดำเนินการตรวจสอบให้ความเป็นธรรมแก้ไขปัญหาแต่กลับปล่อยให้พนักงานทำผิดฃำ้ฃ้อนนำป้ายประกาศไปติดประจานขับไล่ผู้ฃื้อทรัพย์ออกจากบ้านโดยไร้มนุษย์ธรรมทำให้เป็นที่อับอายของผู้คนรอบข้าง

เมื่อบริหารงานเช่นนี้จึงเป็นไปได้ว่าการใช้เงินที่ได้มาง่ายๆจากการขายสลากควรอย่างยิ่งที่ต้องตรวจสอบอย่างเข้มข้นแค่ที่กั้นรถต้องลงทุนเป็นเรือนหมื่นเรือนแสนแค่ปรับปรุงสะพานเชื่อมอาคารระยะไม่กี่เมตรจำเป็นต้องลงทุนถึง9.8 ล้านบาทกันทีเดียวหรือ

จึงขอให้หน่วยงานปราบทุจริตเข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียดลูกค้าธนาคารกล่าวในที่สุด