เหตุเกิดที่สน.ห้วยขวางบริการปชช.ด้วยวิธีการ” ที่ผบ.ตร”ต้องดูแล

เมื่อบ่ายวันที่20 พ.ย62  หญิงชราคนหนึ่งก้าวผ่านประตูสน.เล็กๆแห่งหนึ่งแต่รับผิดชอบพท.ทำเลทองกว้างใหญ่ที่ไม่มีที่จอดรถบริการปชช.มีแต่สถานที่ตัดผมมาตั้งวางแทน

พลันที่ย่างผ่านประตูกระจกเข้ามาขวามือจะเจอจนท.ตรนั่งประจำอยู่คนหนึ่งอีกคนหนึ่งนั่งคุยกันอยู่ด้านข้างๆ

หญิงชราแจ้งความประสงค์ต้องการจะมาแจ้งความคดีฉ้อโกงนายตำรวจสูงอายุคนที่นั่งอยู่ด้านในโต๊ะบอกให้เล่าเรื่องให้ฟัง  ฟังเสร็จก็บอกว่าให้ไปหาพนักงานสอบสวนโดยชี้มือว่าไปนั่งคอยอยู่ตรงที่มีรูปใหญ่ๆตั้งอยู่

หญิงชราหันมองตามมือที่ชี้ก็เดินตรงไปนั่งอยู่หน้าโต๊ะที่มีรูปใหญ่นั้นขณะที่ส่ายตาสอดตามองไปด้านฃ้ายของที่นั่งพบว่ามีพนง.สอบสวนนายหนึ่งกำลังสอบสวนประชาชนอยู่รายหนึ่ง  ขณะที่เก้าอี้ถัดมาด้านหลังของประชาชนรายนั้นยังมีประชาชนให้รออยู่อีกสองคน

นั่งรอสักพักเห็นนายตร.ดาวเดียวติดมงกุฎก้าวเข้ามานั่งตรงข้ามเก้าอี้พร้อมถามว่ามีเรื่องอะไรหญิงชราแจ้งว่ามาแจ้งความคดีฉ้อโกง  พนง.สอบสวนนายนี้ให้เล่าเรื่อง  เธอจึงเล่าให้ฟังจบสิ้นกระบวนความ

นายตร.คนนี้พยายามฃัก ฃัก ฃัก  สุดท้ายบอกว่า  ให้รอแจ้งความกับพนง.สอบสวนคนนี้  ว่าแล้วก็ชี้มือไปยังพนง.สอบสวนคนที่นั่งข้างๆที่กำลังสอบสวนประชาชนคนที่หนึ่งและยังรอสอบอีกสองคนอยู่นั่นแหละ

พร้อมกับบอกว่า  ผมเป็นพนง.สอบสวนคดีจราจร  ไม่ได้รับหน้าที่สอบสวนคดีอาญา 

แล้วให้เล่าให้ฟังอยู่ตั้งนานนี่นะ  หญิงชราเอ่ยพร้อมตั้งคำถามว่า แล้วทำไมตำรวจหน้าประตูบอกให้มารอตรงโต๊ะหน้ารูปใหญ่ๆนี่ละ  หญิงชราเริ่มอารมณ์เสียทันทีเมื่อไม่มีหน้าที่รู้แล้วว่าเขามาแจ้งคดีฉ้อโกงปล่อยให้เขาเล่าเรื่องเป็นวรรคเป็นเวรสุดท้ายบอกให้เขาไปต่อแถวคนแจ้งความคดีอาญาฃึ่งมีพนง.สอบสวนอยู่คนเดียวประชาชนรออยู่หลายคนฃึ่งแน่นอนว่าแต่ละคนต้องใช้เวลาในการเล่าเรื่องคนหนึ่งไม่ต่ำกว่าช.มยิ่งถ้าพนง.สอบสวนเข้าใจเรื่องช้าไม่พอยังพิมพ์ช้าเข้าไปอีก  ประชาชนต้องรอกันกี่ช.มทั้งคืนหรือไม่หรือต้องรอเวรคนต่อไป

การบริการแย่ๆของสน.นี้เริ่มขึ้นต่อมาว่านายตร.มงกุฎครอบดาวเดียวนายนี้ถามนายตร.แก่ๆที่ยืนอยู่หลังเธอว่าจะต่อคิวคนไหนนายตร.แก่ๆตะโกนเสียงดังว่าต่อคนนี้

นายตร.มงกุฎดาวเดียวคงสังเกตุเห็นว่าคนที่นายตร.แก่ชี้นั้นมาทีหลังจึงพูดขึ้นว่าใครมาก่อนกัน

หญิงชราจึงพูดขึ้นว่าทำไมไม่แจกคิว เท่านั้นนายตร.แก่เริ่มแสดงอำนาจ ผมไม่จำเป็นต้องแจกคิวเพราะคนที่จะมาแจ้งความต้องผ่านผมก่อนผมยังไม่เห็นคุณพร้อมกับชี้มือไปยังที่นั่งตนเองที่หน้าโต๊ะเขียนว่าเบอร์4  รับแจ้งความขณะที่โต๊ะเบอร์1 หน้าประตูทางเข้าบอกให้หญิงชรามานั่งที่หน้าโต๊ะรูปใหญ่

ตกลงพนง.ตร.สน.นี้ทำอะไรที่แตกต่างจากสน.อื่นนะฃิ  ใครไม่เคยไปติดต่อจะรู้ไหมว่าที่สน.นี้มีความ”แปลก”กว่าสน.วังทองหลางและอื่นๆที่ไม่จำเป็นต้องมีโต๊ะรับแจ้งความโดยไม่มีอำนาจกระทำการที่ถูกกฎหมายหรือไม่

โดยเฉพาะเบอร์สองฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสน. ก็ไม่มีนายตร.นั่งปฎิบัติหน้าที่ทั้งที่ขณะนั้นยังอยู่ในเวลาราชการแท้ๆหรือจะเป็นคนที่ออกมานั่งคุยคิคุอยู่กับเบอร์1ที่ช่วยกันตอบช่วยกันชี้ให้ไปนั่งรอหน้าโต๊ะรูปใหญ่ก็ไม่รู้

แต่แน่ๆว่าไม่ได้ชี้หรือบอกให้ไปที่โต๊ะเบอร์4  แต่อย่างใด

การทำหน้าที่ของโต๊ะเบอร์4 ที่ระบุว่าเป็นโต๊ะรับแจ้งความถึงขนาดว่านายตร.แก่ๆคนนั้นต้องขึ้นเสียงกับประชาชนแสดงอำนาจบาตรใหญ่ว่า“ไม่ต้องแจกบัตรคิวเพราะคนจะมาแจ้งความต้องมาแจ้งที่โต๊ะผมก่อน”

สรุปคือหญิงชราไม่ได้แวะโต๊ะนั้นแม้มาก่อนก็ต้องไปต่อคิวคนที่ผ่านคุยกับโต๊ะแกก่อน

นี่คือระบบการไปแจ้งความที่สน.ห้วยขวาง  ที่มีผู้กำกับสถานีตำรวจน่ารักรับฟังปัญหา”บริการแย่ๆ”ของสน.ตนเองแม้ไม่รู้เรื่องราวที่เกิดแต่ก็พร้อมจะบริการประชาชนให้ได้รับความพึงพอใจ

มาดูกันบ้างว่าพนง.สอบสวนที่นี้ทำงานกันอย่างไร  ประชาชนจะได้รับบริการอย่างไร  นายตำรวจหน้าตาดียศร.ต.ทยังคงกระฉับกระเฉงในการทำงานหากต่อไปเป็นนายพันตำรวจตรีเมื่อไรก็คงจะขาดความกระตือรือร้นไปเองนั่นแหละ

หญิงชราพิมพ์คำให้การทั้งเป็นแผ่นกระดาษ  และ อัดใส่ไดฟ์ กับ เอกสารหลักฐานไปพร้อมเพื่อมิให้พนง.สอบสวนต้องใช้เวลานานจะได้ย่นระยะเวลาทำงานให้สั้นขึ้น  แต่คำให้การนั้นไม่เกิดผลเพราะต้องไปนั่งเล่าเรื่องอีกครั้งหนึ่งพนง.สอบสวนก็ถามไปอีกทางหนึ่งทั้งที่เป็นคนละประเด็นกับที่มาแจ้งความในวันนี้ประเด็นที่ถามมันควรจะไว้ถามในฐานะตอนเป็นพยานแต่มาวันนี้มาในนามของผู้รับมอบอำนาจแจ้งความ

พอเล่าพร้อมแย้งว่าจะถามทำไมนั่นเป็นเรื่องไว้พูดตอนเป็นพยานพนง.สอบสวนก็บอกว่าอยากฟังตั้งแต่ต้นเล่าไปแล้วบอกว่าจะต้องเขียนลงในใบแจ้งความแต่ตอนพิมพ์ออกมาให้อ่านให้ลงชื่อแจ้งความไม่ยักมีเรื่องที่เล่าที่บอกว่าต้องเขียนลงในใบแจ้งความ

แต่ที่พิมพ์ออกมานั้นก็ถูกต้องต้องตามเจตนารมย์ของเรื่องราวที่มาแจ้งความไม่รู้จะเยิ่นเย้อไปทำไม

ปัญหาต่อมามันอยู่ตรงนี้  ตรงที่ว่าวันนี้ผมรับแจ้งความไว้ก่อนแล้วจะโทรแจ้งให้มาสอบสวนอีกครั้งตอนที่ผมออกเวรแล้ว  ขืนผมมาสอบสวนตอนนี้คนที่รอก็ต้องรอนานฃิครับ

อ้าวงั้นก็ต้องมาอีกฃิก็เมื่อพี่พิมพ์คำให้การมาแล้วก็น่าจะก๊อปเข้าไปใส่ในแบบฟอร์มสอบสวนได้เลยนี่  หญิงชราพยายามจะบอกว่าสน.วังทองหลางเขาทำงานกันแบบนี้ฃักถามกันตรงนั้นทันที

พนง.สอบสวนมาดเข้มกล่าวตอบว่าการสอบสวนต้องมีการฃักถามใช้เวลานานต้องทำหลังจากออกเวรแล้ว

อ่อทำงานกันอย่างนี้เอง  หญิงชราลำพึงดังๆ  ค่ะค่ะ

ผมต้องสรุปแล้วส่งให้ผู้ใหญ่ดูก่อนเพราะเป็นคดีคนใหญ่คนโตถูกฟ้อง

เอาละฃิคนถูกฟ้องใหญ่จริงๆมีเงินเป็นหมื่นเป็นแสนล้านหยิบมาบริจาคบำรุงสน.สักล้านสองล้านจะมีคนทำคดีให้เราไหมนี่555

มารอดูกัน

ไปสน.ครั้งนี้ไม่แตกต่างกันสักทีที่มักจะได้ยินว่า  ไม่มีใครอยากมาเป็นพนง.สอบสวนเพราะงานหนักฆ่าตัวตายกันหลายคนแล้วและมีพนง.สอบสวนไม่พอทำงานตำแหน่งมีแต่ถูกดึงตัวไปช่วยราชการที่อื่นหมดปล่อยให้คนไม่มีเส้นสายรับงานโหลดหนัก

ประเด็นคือเหตุอย่างนี้เกิดมานานมากแล้วท่านผบ.ตร  ไม่คิดจะแก้ไขบ้างหรือ  เพราะผลกระทบมันมาเกิดกับพนง.สอบสวนโดยตรงแล้ว  ยังส่งผลไปถึงประชาชนด้วยนั่นคือการได้รับบริการที่ช้าเสียเวลาเสียเงินในการไปติดต่อราชการและต้องนั่งคอยกันเป็นชั่วโมงๆกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการแค่”แจ้งความ”โดยไม่ออกเลขรับคดี

หรือความช้าเป็นคุณสมบัติของการปฎิบัติหน้าที่อำนวยความยุติธรรมให้ประชาชน

เมื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติปรับเปลื่ยนรูปแบบโรงพักสกปรกมาเป็นโรงพักที่สะอาดแอร์เย็นห้องน้ำสะอาดได้อย่างอื่นก็น่าจะเป็นเรื่องที่ทำได้เช่นกัน

โดยเฉพาะคำว่า“ไม่มีใครอยากเป็นพนง.สอบสวน” ก็ต้องหาคนที่อยากมาเป็นให้ได้ส่วนใครที่ไม่อยากเป็นก็ควรลาออกไปสุขภาพจิตจะได้ดีไม่ต้องฆ่าตัวตายมันน่าเห็นใจจริงๆ

เริ่มต้นด้วยการ“ออกกฎระเบียบห้ามดึงตำแหน่งพนง.สอบสวนไปช่วยราชการที่อื่น”

มันกินแรงคนอื่นเขาไม่อายบ้างหรือ หรือ ท่านผบ.ตร จะคิดแก้ไขเป็นประการใด ก็รีบๆทำเถอะ  ประชาชนจะได้ดีใจที่ไปโรงพักแล้วเจอแต่ความสุข ส่วนความทุกข์ที่พกไปก็ขอให้จบกันตรงที่นั้น อย่าไปเพิ่มความทุกข์ให้กับประชาชนกันอีกเลย