สับเละสคบ.หลังศาลแพ่งกท.ใต้มีคำสั่งรับคดีผู้เสียหายรวมตัวฟ้อง”ฟอร์ด”เป็นคดีแบบกลุ่ม

วันที่ 22 พ.ค. 2561 เวลา 09.00น. ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ นายจิณณะ แย้มอ่วม ทนายผู้เสียหายจากการใช้รถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด นำกลุ่มผู้เสียหายจำนวน 308 คน เข้ารับฟังคำวินิจฉัยของศาล หลังเป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี (ประเทศไทย) จํากัด และบริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด ฐานผลิตรถยนต์ชำรุดบกพร่องออกจำหน่าย โดยศาลสั่งรับเป็นคดีแบบกลุ่ม โดยจะเริ่มมีการสืบพยานฝ่ายโจทก์และจำเลย ติดต่อกัน พร้อมกำหนดแลนัดฟังคำพิพากษาคดีในวันที่ 28 ก.ย. 61

นายจิณณะ เปิดเผยว่า ทางกลุ่มได้ยื่นฟ้องไปตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2560 เวลาผ่านไปกว่าหนึ่งปี วันนี้ ศาลแพ่งกรุงเทพใต้นัดฟังคำวินิจฉัย และได้มีคำสั่งรับเป็นคดีแบบกลุ่มแล้ว นับเป็นการรับฟ้องคดีแบบกลุ่มผู้บริโภคคดีแรก ๆ ของประเทศไทยที่มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก เป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการคุ้มครองผู้บริโภค

“วันนี้ศาลมีคำสั่งรับเป็นคดีนี้เป็นคดีแบบกลุ่ม อาจด้วยเหตุผลหลายประการ ทั้งความเสียหายที่เกิดกับผู้บริโภคที่ใช้รถยนต์ฟอร์ดจำนวนมาก ขณะเดียวกันศาลในหลายประเทศก็มีการตัดสินให้บริษัทฟอร์ดชดใช้เยียวยาผู้เสียหายแล้ว โดยเฉพาะที่ออสเตรเลีย ศาลเพิ่งมีคำสั่งปรับบริษัทฟอร์ดเป็นเงินเกือบ 300 ล้านบาท โทษฐานที่ประกอบธุรกิจโดยขาดจิตสำนึก ส่วนการดำเนินการในขั้นต่อไป จะเข้าสู่กระบวนการสืบพยาน โดยศาลนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 1 ส.ค. และสืบพยานจำเลยวันที่ 30-31 พ.ค. จากนั้นในวันที่ 28 ก.ย. 61 ศาลนัดคำพิพากษาคดี” นายจิณณะ กล่าว

นายจิณณะ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นอีกอย่างหนึ่งคือ หน่วยงานของรัฐทุกภาคส่วนที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภค ไม่ทำงานแบบฉาบฉวย รวมทั้งมูลนิธิหรือสมาคมที่ขับเคลื่อนเรื่องนี้ ควรทำงานแบบบูรณาการในเชิงรุกให้มีประสิทธิภาพ เพราะทุกวันนี้ผู้บริโภคพบเจอปัญหาต่าง ๆ มากมาย และคนในสังคมไทยส่วนหนึ่งไม่รักษาสิทธิของตัวเอง เป็นพวก “ไทยเฉย” เราจึงขาดหลักเกณฑ์ที่จะควบคุมให้ผู้ประกอบการมีจิตสำนึก ผลิตสินค้าให้มีมาตรฐาน ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค

นอกจากนี้ ควรมีการปฏิรูปสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพราะมีอำนาจอยู่ในมือ แต่ไม่เอามาปฏิบัติ ขาดการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ทำให้ผู้ประกอบการที่เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภคไม่เกิดความเกรงกลัวหรือยั้งคิดในผลเสียที่จะเกิดขึ้น ที่สำคัญ รัฐธรรมนูญปี 40 ปี 50 และปี 60 ระบุชัดเจนว่า ให้จัดตั้งองค์กรอิสระเพื่อผู้บริโภค เพื่อให้เกิดเป็นมาตรฐานที่ดีทัดเทียมกับนานาประเทศ แต่จนถึงปัจจุบัน องค์กรอิสระนี้ก็ยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริง

ด้านนางสาวฌนิฏา สุขขวัญ  ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายจากรถยนต์ฟอร์ดในนาม “กลุ่มเหยื่อรถยนต์ กล่าวถึงการต่อสู้ของผู้บริโภคที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่า แม้เราจะมีหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคของรัฐอย่าง สคบ. แต่ผู้บริโภคก็ไม่ได้รับการคุ้มครองอย่างจริงจัง จนเป็นคำถามที่คาใจสมาชิกในกลุ่มมาตลอดว่า สคบ. คุ้มครองใคร ทำให้เราเลิกหวังกับหน่วยงานของรัฐ และหันมาต่อสู้ปกป้องสิทธิของตัวเองด้วยตัวพวกเราเอง จนมาถึงวันนี้

“ที่ผ่านมา มีสมาชิกกลุ่มกว่า 100 รายที่ต้องยุติการร่วมฟ้อง เพราะรู้สึกเหนื่อย ท้อ ต้องส่งทั้งค่างวดรถ และจ่ายค่าซ่อมรถ บางส่วนรับภาระไม่ไหว มองไม่เห็นหนทาง จึงต้องขายรถทิ้ง ในการต่อสู้ครั้งนี้ เราไม่ได้สู้เพื่อเหยื่อรถยนต์ฟอร์ดเท่านั้น แต่เรามองถึงการสร้างมาตรฐานให้กับผู้บริโภคทั้งประเทศ ที่ควรจะต่อสู้กับผู้ประกอบการที่เอารัดเอาเปรียบ อย่ากลัวที่จะออกมาเรียกร้อง การที่เราไม่ต่อสู้เลย เท่ากับปล่อยให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาส และหลังจากนี้ ทางกลุ่มเตรียมยกระดับการเคลื่อนไหวเพื่อผลักดันการตั้งองค์กรอิสระคุ้มครองผู้บริโภคของไทยให้เกิดขึ้นจริง หลังระบุไว้ในรัฐธรรมนูญมาร่วม 20 ปี แต่ภาครัฐยังไม่มีการขยับดำเนินการให้เกิดเป็นจริง” นางสาวฌนิฏา กล่าว