สังคม-การเมือง โดย นกกระจิบ

สังคม-การเมือง ประจำวันที่ 19 กรกฎาคม 2559 ***ที่ผ่านมาไม่เคยเป็นข่าว ประธานศาลฎีกา ออกตรวจงานเยี่ยมที่ทำการศาลทุกภาค วันนี้ท่าน วีระพล ตั้งสุวรรณ ทำไว้เป็นตัวอย่าง กินน้อย ใช้น้อย เพื่อมิให้สิ้นเปลืองงบประมาณภาษีของปชช.ด้วยกำหนดการต้อนรับที่เรียบง่าย เลี้ยงกันเองภายในศาลด้วยอาหารเพียงสองสามอย่าง ขอความสุขกาย สุขใจ จงมีแด่ท่าน สาธุ ***หากจะได้ตรวจตราพฤติกรรมและคำพิพากษา คำสั่ง ของผู้พิพากษาในทุกภาคด้วยจะยิ่งเป็นบุญเป็นคุณแก่ปชชอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการพูดจาของผู้พิพากษาขณะอยู่บนบัลลังค์ด้วยจะเป็นที่น่าศรัทธามากขึ้น***การจับเป็นกลุ่มก้อนของผู้ยิ่งใหญ่ในจังหวัดต่างๆ ประกอบด้วย ผู้พิพากษา นายทุน เจ้าของกิจการ นักวิ่งเต้น สมควรที่ท่านจะตรวจสอบให้จงหนัก เพราะนั่นหมายถึงการทำอะไรก็ได้ที่ไม่มีความเหมาะสม ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรม ปชช. หวังว่าผู้พิพากษาจะเข้ารูปเข้ารอยเป็นที่เคารพศรัทธาของปชช.ในสมัยท่านนี้*** กรณีใช้ม.157 กับผู้พิพากษาที่ถูกไล่ออก เพราะทุจริต ควรทำให้ปรากฎ อย่าให้สังคมต้องเคลืยบแคลงสงสัย หลังจากมีนโยบายมานานแต่ไม่มีการกระทำที่ปรากฎให้สังคมรับรู้ เชื่อมั่นว่าท่านจะทำให้ประจักษ์ในครั้งนี้ ***ความอดทนของปชช.มีจำกัด เมื่อเจอผู้พิพากษาหลายคดี หลายท่าน ร้องเรียนต่อก.ต ไป สี่ท่านในจว.เดียวกันแล้ว ยังมีอีกหลายท่านที่รอร้องเรียน ทั้งศาลชั้นต้น อุทธรณ์ ฎีกา หาใช่ปชช.จะเป็นนักร้องไม่ ถ้าไม่มีเหตุ ปชช. จะร้องทำไม กับผู้พิพากษาที่ยิ่งใหญ่คับปท.ขณะนี้ จึงเป็นบุญของปชช.ที่ได้ประธานศาลฎีกาท่านนี้มาวางนโยบายการบริหารงานศาลให้เข้ารูปเข้ารอย หลังจากปล่อยเลอะเทอะกันมานาน *** ขำกลิ้งกับความเห็นของคนในสังคม เป็นถึงผู้เคยเป็นใหญ่แต่ความคิดคับแคบ เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ กำจัดความคิดผู้อื่น เช่น ความคิดตัวเองไม่เห็นด้วยกับการเปิดเหมือง แต่เห็นด้วยกับม.44 ที่ออกมาใช้กับการแต่งตั้งคนในองค์กรอิสระ ทั้งที่ควรจะสนับสนุนให้มีการดำเนินการตามที่ควรจะเป็นไปตามครรลองที่มีมา กลับเห็นดีเห็นชอบ เพราะต้องการชเลียร์เพื่อหวังผลในความคิดเรื่องของตัวเอง***ปทไทยยามนี้จึงแสดงออกทางความคิดที่ต้องกรองกันหลายชั้นก่อน”like”หรือ “comment”หรือ “share” จะได้ไม่ตกเป็นเครื่องมือ หรือแสดงความ”fool”เพราะ facebookเป็นเหตุ***ข่าวพุทธศาสนาพาคนพุทธส่วนใหญ่หน่ายต่อการกระทำของคนบางกลุ่ม แต่คนในองค์กรพุทธศาสนาเองก็เป็นเหตุ บางวัดปล่อยให้โยมเข้าไปจัดการธุรกิจในวัด หาเงินเข้าวัด เห็นศรัทธาของชาวพุทธเป็นเรื่องที่ต้อง”ไถ”กันทุกเดือน ทุกเทศกาล ***บางคนอยู่วัดชื่อดัง แต่ไม่เรียนรู้ สำรอกต่อผู้คนที่มีจิตทำบุญ ดังเขาไปขอส่วนบุญตนฉะนั้น วันข้างหน้าพฤติกรรมไม่เปลื่ยนต้องเอาออกมาแฉ เผื่อคนไปทำบุญจะได้รู้บ้างว่า การสนับสนุนให้คนชั่วครองวัดนั้น เพียงเพราะเป็นแมวเพื่อจับหนูอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเป็นแมวขาวเท่านั้น เจ้าอาวาสวัดจะได้ไม่เสื่อมเสียหรือฉาวโฉ่ต่อการกระทำนั้นๆ ด้วย***หรือหากเป็นเพราะเจ้าอาวาสสนับสนุนให้คนชั่วครองวัดก็จะได้รู้กันไปว่า เลือกที่จะใช้แมวดำมาจับหนูเพราะเห็นแก่เงินทองที่หามาเข้าวัดได้***ปิดท้ายวันนี้ วันอาสาฬหบูชา วันแห่งความสำคัญทางพุทธศาสนา วันแห่งการถือศีลอีกวันหนึ่ง ข้อเขียนวันนี้จึงเป็นแต่เรื่องจริงทั้งสิ้นที่สื่อไปถึงผู้มีอำนาจทั้งหลายได้รับฟังและแก้ไข
http://www.kalyanamitra.org/th/article_detail.php?i=12716